ประสิทธิผลของโปรแกรมประยุกต์ใช้แบบจำลองปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริมร่วมกับแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนพื้นที่เทศบาลตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
ปัจจัยนำ, ปัจจัยเอื้อ, ปัจจัยเสริม, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, พฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมประยุกต์แบบจำลองปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริม ร่วมกับแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนพื้นที่เทศบาลตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา กลุ่มตัวอย่างคือ ตัวแทนครัวเรือนที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา จำนวน 82 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 41 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย 1) โปรแกรมประยุกต์แบบจำลองปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อและปัจจัยเสริม ร่วมกับแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ใช้ระยะเวลา 8 สัปดาห์ 2) แบบสอบถาม ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ ทัศนคติ การรับรู้ และพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือน ทำการเก็บข้อมูล 2 ครั้ง คือ ก่อนเข้าร่วมโปรแกรมและหลังเสร็จสิ้นโปรแกรม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Chi-square test, Independent t-test และ Paired t-test ผลการศึกษาพบว่า หลังสิ้นสุดโปรแกรมกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความรู้ ทัศนคติ การรับรู้ และพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือน สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมและสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ดังนั้น โปรแกรมประยุกต์แบบจำลองปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อและปัจจัยเสริมร่วมกับแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ สามารถส่งเสริมความรู้ ทัศนคติ การรับรู้และพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถขยายผลการดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการจัดการขยะมูลฝอยถูกต้องเหมาะสมมากขึ้นต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ. (2566). รายงานสถานการณ์สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนประเทศไทย ปี พ.ศ. 2565 [ออนไลน์]. [สืบค้นเมื่อ 15 มิถุนายน 2566]; แหล่งข้อมูล: https://www.pcd.go.th/publication/29509/
เทศบาลตำบลดงเจน. (2565). แผนปฏิบัติการบริหารจัดการขยะมูลฝอย เทศบาลตำบลดงเจน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 [ออนไลน์]. [สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2566]; แหล่งข้อมูล: https://n9.cl/bp2do8
ธีร์ดนัย ชาวป่า และสรัญญา ถี่ป้อม. (2565). ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการคัดแยกขยะติดเชื้อในครัวเรือนของผู้ที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงภายในตำบลบึงกอก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก. วารสารควบคุมโรค, 48(4), 912-921. [สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2566]; แหล่งข้อมูล: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/252629/176005
ศศิวิมล จันทร์มาลี, พัชรินทร์ แตงอ่อน, ขวัญยุพา ม่วงงาม, พัณณิตา แขกพงษ์, จิรภาส หอมจิตสุขฤทัย และชนินันท์ ประเสริฐไทย. (2566). ผลของโปรแกรมการให้ความรู้และทัศนคติต่อการจัดการขยะมูลฝอย ในตำบลข้าวงาม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 17(1), 150-165. [สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2566]; แหล่งข้อมูล: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHPC9Journal/article/view/260059/178285
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 (ลำปาง). (2565). รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม (ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน) ปี 2564 [ออนไลน์]. [สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2566]; แหล่งข้อมูล: https://epo02.pcd.go.th/th/information/list/2239
สุมาลี จันทรินทร์. (2556). ประสิทธิผลของทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการจัดการ ขยะในครัวเรือนของประชาชนตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม. วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สุขศึกษา). คณะสาธารณสุขศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อรอุมา ทองไทย, ปัทมาวดี เทียนผ่องศร, จริยา กุลโทแก้ว, จริญญา เกียรติชูพิพัฒน์, ภัสรียา อุ่นขาว และณฐกร นิลเนตร. (2565). ประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการจัดการมูลฝอยติดเชื้อจากการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ในครัวเรือนของประชาชนจังหวัดเพชรบุรี. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 23(44), 24-38. [สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2566]; แหล่งข้อมูล: https://shorturl.asia/z2IDc
Asankha, P., Ajantha, S.K., Jayasena, D.M., & Soysa, R.N.K. (2024). Can interventions improve waste management by the households? lessons from a randomized experiment in Sri Lanka. Waste Management Bulletin, 2(1), 289-298. [cited 2025 April 18]; Available from: https://doi.org/10.1016/j.wmb.2024.02.002
Best, J.W. (1977). Research in Education. (3rd ed.). Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall.
Bloom, B.S. (1975). Taxonomy of Education. New York: David McKay.
Green, L.W. (1976). Research method of evaluation of health education under adverse scientific conditions. Chicago: American Medical Association.
Haesti, S. (2018). The Effect of Counseling and Providing Temporary Waste Shelter on Behavior of Household Waste Management. Journal of Medical Science and Clinical Research, 9(2018), 795-800. [cited 2025 June 1]; Available from: https://dx.doi.org/10.18535/jmscr/v6i9.138
Laura, D., & Anna R. D. (2017). Disrupting household food consumption through experimental HomeLabs: Outcomes, connections, contexts. Journal of Consumer Culture, 17(3), 823-844. [cited 2025 June 1]; Available from: https://journals.sagepub.com/doi/pdf/10.1177/1469540516631153
Rosenstock, I. M. (1974). The Health Belief Model and Preventive Health Behavior. Health Education Monographs, 2(4), 354-386. [cite 2023 June 15]; Available from: https://doi.org/10.1177/109019817400200405
Sembiring, E., Fenitra, R. M., Dangkua, A. R., Al Khoeriyah, Z. B., Van Der Laan, A. Z., Fan, Y., & Jobling, S. (2024). Improving household waste management in Indonesia: A mixed-methods approach for waste Sorting. Cleaner Waste Systems, 9, 1-10. [cited 2025 June 1]; Available from: https://bura.brunel.ac.uk/bitstream/2438/30240/5/FullText.pdf
William, Y., Sally, V. R., Cheryl A. R., & Ralf, B. (2017). Can social media be a tool for reducing consumers’ food waste? A behaviour change experiment by a UK retailer. Resources, Conservation and Recycling, 117, 195-203. [cited 2025 June 1]; Available from: https://eprints.whiterose.ac.uk/id/eprint/106961/8/1-s2.0-S0921344916303160-main.pdf

