การประเมินประสิทธิผลโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว กรณีศึกษา : แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว (กสค.) อำเภอเขาวง-นาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ 2554

ผู้แต่ง

  • ศิริวรรณ จันทร์สระคู
  • สม นาสอ้าน

บทคัดย่อ

 วัตถุประสงค์ในการศึกษา : เพี่อศึกษา 1) ความคิดเห็น และความรู้ความเข้าใจของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ที่ได้จากการเข้ารับการอบรมการพัฒนาแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว และความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนา แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) ความคิดเห็นของบุคคลในครอบครัวที่มีต่อการปฏิบัติงานของแกนนำ สุขภาพประจำครอบครัวและ 3) เพี่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงพยาบาลสุขภาพตำบล ด้านบริบทและปัจจัยนำการ บริหารจัดการโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว

วิธีการวิจัย : เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มอย่างใช้การสุ่มอย่างง่าย ประกอบด้วย แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว จำนวน 108 คน 2) ตัวแทนครัวเรือน จำนวน 264 คน และ 3) ผู้บริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็น แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาสถิติ Independent t-test และ F-test

ผลการศึกษา : พบว่า1) ความคิดเห็นของ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ต่อกระบวนการฝึกอบรมแกนนำสุขภาพ ประจำครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย = 4.20 S.D. = 0.70) ต่อเนื้อหาหลักสูตรแกนนำสุขภาพประจำ ครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย = 3.94 S.D. = 1.05) การรับรู้ความคิดเห็นและการปฏิบัติตัวในการดูแล สุขภาพตนเองด้านการปฏิบัติตัวในการดูแลพฤติกรรมสุขภาพอนามัยที่ถูกต้องของ แกนนำ สุขภาพประจำครอบครัวในภาพ รวมอยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย = 4.00 S.D. = 0.86) และพบว่าแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่มี เพศ อายุ การศึกษา และ อาชีพต่างกัน มีความคิดเห็นต่อกระบวนการอบรม เนื้อหาหลักสูตรการอบรม และการรับรู้ความคิดเห็นและการปฏิบัติตัวใน การดูแลสุขภาพตนเองไม่แตกต่างกัน 2)ความความคิดเห็นของตัวแทนครัวเรือนที่มีต่อการปฏิบัติงานของ แกนนำสุขภาพ ประจำครอบครัวอยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย = 4.02 S.D. = 0.80) และพบว่าตัวแทนครัวเรือนที่มี เพศ อายุ การศึกษา และอาชีพ ต่างกัน ความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ไม่แตกต่างกันและ3)ความคิดเห็นของผู้บริหาร โรงพยาบาลสุขภาพตำบลต่อการบริหารจัดการโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำสุขภาพประจำ ครอบครัวภาพรวมอยู่ในระดับ มาก (เฉลี่ย = 3.59 S.D. = 0.82) ด้านบริบทการบริหารจัดการอยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย=3.57 S.D.=0.81) ด้านความเหมาะ สมของการดำเนินงาน อยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย = 3.64 S.D. = 0.82) ด้านการรับรู้และความเข้าใจที่มีต่อโครงการอยู่ใน ระดับมาก (เฉลี่ย=3.63 S.D.=0.82) ด้านความเพียงพอความพร้อมของผู้รับผิดชอบ อยู่ในระดับปานกลาง (เฉลี่ย = 3.31 S.D. = 0.68) ด้านปัจจัยนำการบริหารจัดการโครงการฯด้านความคุ้มทุน คุ้มค่าของงบประมาณ อยู่ในระดับมาก (เฉลี่ย = 3.62 S.D. = 0.81)

คำสำคัญ : แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว

References

เยาวดี สุวรรณนาคะ. ผลของกระบวนการศึกษาเพี่อสร้างพลังที่มีต่อการพัฒนาแกนนำ สุขภาพประจำครอบครัว. วิทยานิพนธ์ปริญญาคุรุคาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาศึกษา ภาควิชา สารัตถศึกษา, คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย;2543.

ยุทธนา โสภา. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อ พฤติกรรรมการส่งเสริมสุขภาพของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวเขตชุมชนมิตรภาพ อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น.วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต,บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น;2547.

พัชราภรณ์ ชัยศรีสวัสดิ์สุข.บทบาทของสมาชิกในครอบครัวในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการ ปลูกถ่ายโต: ศึกษาเฉพาะกรณีสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย โรงพยาบาลรามาธิบดี. วิทยานิพนธ์
สังคมสงเคราะห์ศาลตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยธรรมคาสตร์; 2540.

รุจา ภู่ไพบูลย์. การพยาบาลครอบครัว แนวคิด ทฤษฎีและการนพริ้นติง; 2541.

Yamane, Taro. Statistics: an introductoryanalysis. New York: Harper & Row; 1973.

วนิดา วิระกุลและคนอื่นๆ. การศึกษาระบบการพัฒนาการเรียนรู้และระดับความรู้เกี่ยวกับ การดูแลสุขภาพตนเองของ กสค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. รายงานวิจัยศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการ
สาธารณสุขมูลฐานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.ขอนแก่น : คลังนานาวิทยา; 2542.

จุฑาพร เกษมภักดีพงษ์. “การประเมินผลความสของโครงการแกนนำสุขภาพประจำ ครอบครัวในจังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. 2540.” สาธารณสุขมูลฐานภาคกลาง. 14 (ธันวาคม 2541-มกราคม 2542);2542.

สม นาสอ้าน และคณะ.ประสิทธิผลการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจังหวัดกาฬสินธุ์.วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ;2552.

สมาน นิ่มนวลและรุ่งนภา ยศตื้อ. “การพัฒนารูปแบบการพึ่งตนเองด้านสุขภาพอนามัย ระดับครอบครัวจังหวัดลำปาง.”สาธารณสุขมูลฐานภาคเหนือ. 12(สิงหาคม-กันยายน 2542); 2542. 27-32.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-07-04