การเปรียบเทียบความแม่นยำในการวินิจฉัยมะเร็งท่อน้ำดีระหว่างเอกซเรย์คอมพิวเตอร์กับเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด

ผู้แต่ง

  • คนัมพร โกมาลย์

คำสำคัญ:

มะเร็งท่อน้ำดี, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

บทคัดย่อ

            วัตถุประสงค์ : การวิจัยครั้งนี้ เพื่อเปรียบเทียบความแม่นยำในการประเมินชนิดและขนาดรอยโรคระหว่างเอกซเรย์คอมพิวเตอร์(CT) กับเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI) ในกลุ่มคนไข้มะเร็งท่อน้ำดี(cholangiocarcinoma, CHCA) และเพื่อประเมินเปอร์เซ็นต์ความมากน้อยแต่ละชนิดของมะเร็งท่อน้ำดีและลักษณะทางรังสีวิทยาที่พบในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด

           วิธีการศึกษา :  เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาโดยศึกษาศึกษาข้อมูลย้อนหลังย้อนหลัง โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบจำเพาะเจาะจง ในกลุ่มคนไข้มะเร็งท่อน้ำดีทุกรายที่ได้รับการตรวจ CT และ MRI ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน  ระหว่างเดือนกันยายน 2556  ถึงเดือนมิถุนายน 2558 จำนวน 50 ราย ซึ่งใช้แบบบันทึกข้อมูลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง และอ่านภาพรังสี โดยอาศัย PACS วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา จำนวน ร้อยละ sensitivity, specificity และ accuracy 

            ผลการศึกษา : พบว่าชนิดมะเร็งท่อน้ำดีที่พบมากที่สุดคือ มะเร็งท่อน้ำดีบริเวณขั้วตับ ร้อยละ 47.3 รองลงมาคือมะเร็งท่อน้ำดีในเนื้อตับ ร้อยละ 34.5 และพบมะเร็งท่อน้ำดีนอกเนื้อตับ ร้อยละ 18.2 ร้อยละ 92.6 ของมะเร็งท่อน้ำดีบริเวณขั้วตับเป็นแบบ periductal type ให้ลักษณะท่อน้ำตีบแคบและมีผนังท่อน้ำดีหนามีการ enhancement ของผนังท่อน้ำดีทั่วๆ ส่วน intraductal type พบเพียงแค่ร้อยละ 7.4 ซึ่งตัวก้อนมะเร็งภายในท่อน้ำดีจะเห็นได้ชัดเจนในภาพ MRI   มะเร็งท่อน้ำดีในเนื้อตับ ในภาพ MRI จะให้สีดำกว่าเนื้อตับปกติในภาพ T1 weighted image และสีขาวกว่าเนื้อตับปกติในภาพ T2 weighted หลังจากฉีดสารทึบรังสี ร้อยละ 66.6พบ enhancement ที่บริเวณขอบก้อน และที่ 5 นาทีหลังฉีดสารทึบรังสี พบว่าสารทึบรังสีค่อยๆเข้าไปในตัวก้อนมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกันกับในภาพ CT ก้อนมะเร็งมีสีดำกว่าเนื้อตับปกติ ลักษณะการ enhancement เช่นเดียวกับที่พบในภาพ MRIมะเร็งท่อน้ำดีนอกเนื้อตับให้ลักษณะท่อน้ำดีตีบแคบและมีผนังหนา (88.8%) ขอบเขตไม่ชัดเจน (88.8%) asymmetric narrowing (77.7%) และ abrupt narrowing (100%) วัดความยาวเฉลี่ยได้ 18 มิลลิเมตร และวัดความหนาเฉลี่ยได้ 4 มิลลิเมตรลักษณะทางรังสีวิทยาอื่นๆที่พบร่วมกับมะเร็งท่อน้ำดีพบการลุกลามเส้นเลือดร้อยละ 54 ท่อน้ำดีขยายร้อยละ 94 capsular retraction ร้อยละ 20 lobar atrophy ร้อยละ 20 การกระจายมะเร็งภายในเนื้อตับร้อยละ 48 การกระจายมะเร็งไปต่อมน้ำเหลืองร้อยละ 80 การลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงร้อยละ 26 และการกระจายมะเร็งไปยังอวัยวะอื่นๆร้อยละ 8CT มี specificity และ accuracy สูงในการแยกชนิดมะเร็งท่อน้ำดีว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในเนื้อตับ มะเร็งท่อน้ำดีบริเวณขั้วตับและมะเร็งท่อน้ำดีนอกเนื้อตับ โดย specificity อยู่ที่ 83.3%-100.0% และ accuracy อยู่ที่ 87.1%-93.5% แต่เมื่อประเมินระยะมะเร็งท่อน้ำดีบริเวณขั้วตับตาม Bismuth-Corlette classification มี accuracy เพียงแค่ 53.8%    CT มี specificity และ accuracy ที่สูงในการประเมินการลุกลามเส้นเลือด lobar atrophy การกระจายมะเร็งภายในเนื้อตับ การกระจายมะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลือง การลุกลามมะเร็งไปยังอวัยวะข้างเคียง และการกระจายมะเร็งไปยังอวัยวะอื่นๆโดยค่า specificity อยู่ที่ 73.7%-100% และค่า accuracy อยู่ที่ 70.9%-100%

            สรุป : CT มีความแม่นยำในการประเมินชนิดและขนาดรอยโรคมะเร็งท่อน้ำดีชนิดในเนื้อตับและนอกเนื้อตับ แต่มีข้อจำกัดในชนิดมะเร็งท่อน้ำดีบริเวณขั้วตับ ซึ่งจำเป็นต้องส่งตรวจMRIร่วมกับMRCP หรือ ERCP เพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องในการประเมินระยะโรค ที่จะส่งผลต่อการวางแผนการรักษาต่อไปชนิดและลักษณะทางรังสีวิทยาของมะเร็งท่อน้ำดีในโรงพยาบาลร้อยเอ็ดมีความจำเพาะตรงกับการศึกษาในอดีต

เอกสารอ้างอิง

วลัยลักษณ์ ชัยสูตร, ณสุดา ด่านชัยวิจิตร, กอบกุล เมืองสมบูรณ์, นิธิดา ณ สงขลา, โสภา พงศ์พรทรัพย์. Oncologic imaging ภาพวินิจฉัยโรคมะเร็ง.พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพ:เรือนแก้วการพิมพ์; 2552:238-255

Sriamporn S, Pisani P, Pipitgool V, Suwanrungruang K, Kamsa-ard S, Parkin DM. Prevalence of Opisthorchisviverrini infection and incidence of cholangiocarcinoma in KhonKaen Northeast Thailand. Trop Med Int Health; 2004: 9(5):588-94

Cancer research foundation for national cancer institute. Cancer in Thailand volume III; 2003: 34-7

Kim TK, Choi BI, Han JK, Jang HJ, Cho SG, Han MC. Peripheral cholangiocarcinoma of the liver: two-phase spiral CT findings. Radiology. 1997 Aug;204(2):539–543

Valls C, Guma A, Puig I, et al. Intrahepatic peripheral cholangiocarcinoma: CT evaluation. Abdom Imaging. 2000 Sep-Oct;25(5):490–496.

Manfredi R, Barbaro B, Masselli G, Vecchioli A, Marano P. Magnetic resonance imaging of cholangiocarcinoma. Semin Liver Dis. 2004;24(2):155–164.

Kim JY, Lee JM, Han JK, et al. Contrast-enhanced MRI combined with MR cholangiopancreatography for the evaluation of patients with biliary strictures: differentiation of malignant from benign bile duct strictures. J MagnReson Imaging. 2007 Aug;26(2):304–312.

Choi SH, Han JK, Lee JM, et al. Differentiating malignant from benign common bile duct stricture with multiphasic helical CT. Radiology. 2005 Jul;236(1):178-83.

Park MS, Kim TK, Kim KW, et al. Differentiating of extrahepatic bile duct cholangiocarcinoma from benign stricture: findings at MRCP versus ERCP. Radiology 2004 Oct;233(1):234-40.

Park MS, Kim TK, Kim KW, et al. Differentiation of extrahepatic bile duct cholangiocarcinoma from benign stricture: findings at MRCP versus ERCP. Radiology. 2004 Oct;233(1):234–240.

Yu XR, Huang WY, Zhang BY, et al. differentiating of infiltrative cholangiocarcinoma from benign common bile duct stricture using three-dimension dynamic contrast-enhanced MRI with MRCP. ClinRadiol. 2014 Jun;69(6):567-73.

Tillich M, Mischinger HJ, Preisegger KH, Rabl H, Szolar DH. Multiphasic helical CT in diagnosis and staging of hilarcholangiocarcinoma. AJR Am J Roentgenol. 1998;171(3):651–658.

Park HS, Lee JM, Choi JY, et al. Preoperative evaluation of bile duct cancer: MRI combined with MR cholangiopancreatography versus MDCT with direct cholangiography. AJR Am J Roentgenol. 2008 Feb;190(2):396–405.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-08-26

รูปแบบการอ้างอิง

โกมาลย์ ค. . . . . . (2021). การเปรียบเทียบความแม่นยำในการวินิจฉัยมะเร็งท่อน้ำดีระหว่างเอกซเรย์คอมพิวเตอร์กับเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 12(3), 18–31. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/MKHJ/article/view/253057

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย