อาการและอาการแสดงที่พบในผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก อายุ 0-15 ปี ในโรงพยาบาลบรบือ

ผู้แต่ง

  • สาธิตา สีพาชา

คำสำคัญ:

ไข้เลือดออกในเด็ก, อาการแสดง

บทคัดย่อ

          ความเป็นมา : โรคติดเชื้อไวรัสเดงกี่ เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทย2   ต้องอาศัยการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว ต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของโรคอย่างใกล้ชิดและรักษาอย่างเหมาะสม

          วัตถุประสงค์ของการศึกษา : เพื่อศึกษา อาการ อาการแสดง และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ป่วยเด็กอายุ 0-15 ปีที่เป็นโรคไข้เลือดออกในโรงพยาบาลบรบือ วัตถุประสงค์รอง: เพื่อศึกษาโรคติดเชื้ออื่นที่พบร่วมกับโรคไข้เลือดออกในโรงพยาบาลบรบือ

          วิธีการศึกษา : เป็นการศึกษาย้อนหลังโดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียนผู้ป่วยเด็กอายุ 0-15 ปี ที่นอนรักษาในโรงพยาบาล ตั้งแต่1 เมษายน 2553 ถึง 30 กันยายน 2553 นำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา

          ผลการศึกษา : เด็กอายุ 0-15 ปีที่ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบรบือ จำนวนทั้งหมด 372 ราย อัตราส่วนเพศชาย ต่อ เพศหญิง 1: 0.9 อายุเฉลี่ย 9.18 ปี อายุต่ำสุดที่พบ คือ 6 เดือน พบไข้เดงกี่ 207 ราย (ร้อยละ 55.64) ไข้เลือดออกเดงกี่ 162 ราย (ร้อยละ 43.54) และ ไข้เลือดออกร่วมกับภาวะช็อก 3 ราย (ร้อยละ 0.8) ระยะเวลาที่มีไข้เฉลี่ยนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีไข้ คิดเป็น 4.9 วัน โดยพบว่า ระยะเวลาที่มีไข้นานที่สุด คือ 14 วัน สั้นที่สุด คือ 2 วัน ระยะเวลานอนรักษาในโรงพยาบาล เฉลี่ย 2.46 วัน สูงสุด คือ 16 วัน อาการที่พบมากที่สุดได้แก่ ไข้สูง 352 ราย (ร้อยละ 94.6) รองลงมาได้แก่ อาการไอและน้ำมูกไหล 96 ราย (ร้อยละ 25.8) เบื่ออาหาร 88 ราย (ร้อยละ 23.65) ปวดศีรษะ 70 ราย (ร้อยละ 18.8) อ่อนเพลีย 69 ราย (ร้อยละ 18.5) อาเจียน 45 ราย (ร้อยละ 12) เจ็บคอ 26 ราย (ร้อยละ 6.98) ปวดท้อง 20 ราย (ร้อยละ 5.37) ถ่ายเหลว 9 ราย (ร้อยละ 2.42) เลือดกำเดา 5 ราย (ร้อยละ 1.34) ประจำเดือนมามากกว่าปกติ 5 ราย (ร้อยละ1.34) ไข้ชัก 3 ราย (ร้อยละ 0.8) อาการแสดงที่พบร่วมด้วย ได้แก่ หน้าแดง 324 ราย (ร้อยละ 87.09) ตับโต 182 ราย (ร้อยละ 48.92) ใบหน้าและหนังตาบวม 82 ราย (ร้อยละ 22.04) จุดเลือดออก 8 ราย (ร้อยละ 2.15) ผื่นตามตัว 2 ราย (ร้อยละ 0.5) ผลการตรวจ CBC พบผู้ป่วยที่มีจำนวนเกร็ดเลือดน้อยกว่า 100,000 cell/mm202 ราย (ร้อยละ 54.3) ในจำนวนนี้เป็น DHF เพียง19 ราย (ร้อยละ 5.1) DSS 1 ราย นอกนั้นเป็น DF (ร้อยละ 48.9) ผู้ป่วยที่พบภาวะติดเชื้อร่วม (co-infection) ทั้งหมด 59 ราย ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจจำนวน 46 ราย แบ่งเป็น ไข้หวัด 15 ราย (ร้อยละ 23) หลอดลมอักเสบ 13 ราย (ร้อยละ 20.6) คอหอยอักเสบและต่อมทอนซิลอักเสบ 12 ราย (ร้อยละ 18.8) ปอดอักเสบ 6 ราย (ร้อยละ 8.7)

เอกสารอ้างอิง

อุษา ทิสยากร. Acute febrile illness in children. ใน: อังกูร เกิดพาณิช, รังสิมา โล่เลขา, วีระชัย วัฒนวีรเดช, ทวี โชติพิทยสุนนท์, บรรณาธิการ. Update on Pediatric Infectious Disease. 2007. กรุงเทพ ฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977). 2550: 260-65.

ชิษณุ พันธ์เจริญ. Dengue and mimic diseases. ใน: อังกูร เกิดพาณิช, รังสิมา โล่เลขา, วีระชัย วัฒนวีรเดช, ทวี โชติพิทยสุนนท์, บรรณาธิการ. Update on Pediatric Infectios Disease 2008. กรุงเทพ ฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977). 2551: 27-35.

Pancharoen C, Kulwichit W, Tantawichien T, Thisyakorn C. Dengue infection: a global concern. J Med Assoc Thai. 2002; 85 (suppl 1): S25-S33.

คำนวณ อึ้งชูศักดิ์. สถานการณ์และแนวโน้มของโรคติดเชื้อไวรัสเดงกี่ในประเทศไทย. ใน: ชิษณุ พันธ์เจริญ, วันล่า กุลวิชิต, ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร, อุษา ทิสยากร, บรรณาธิการ. ไข้เลือดออก. กรุงเทพฯ: เพนทากอน. 2546: 11-4.

Vaughn D, Green S, Kalayanarooj S, et al. Dengue viremia titer, antibody response pattern, and virus serotype correlate with severity. J Infect Dis. 2000; 181: 2-9.

Pancharoen C, Mekmullica J, Thisyakorn U. Primary dengue infection: what are the clinical distinctions from secondary infection? Southeast Asian J Trop Med Public Health. 2001; 32: 476-80.

Pancharoen C, Thisyakorn U. Dengue virus infection during infancy. Trans R Soc Trop Med Hyg. 2001; 95: 307-8.

Kankirawatana P, Chokephaibulkit K, Puthavathana P, Yoksan S, Apintanapong S, Pongthapisit V. Dengue infection presenting with central nervous system manifestation. J child neurol. 2000; 15: 544-7.

Pancharoen C, Thisyakorn U. Co-infection in dengue patients. Pediatr Infect Dis J. 1998; 17: 81-2.

Chandrakanta, Rashmi K, Garima, Jyotsana A, Amita J, Rachna N. Changing clinical manifestations of dengue infection in north India. Dengue Bulletin. 2008; 32: 118-25.

Shah GS, Islam S, Das BK. Clinical and laboratory profile of dengue infection in children. Kathmandu University Medical Journal. 2006; 4: 40-3.

Ashwini K, Chythra R R, Vinay P, Seema S, Channaveerappa B, Charmaine Minoli S. Clinical manifestations and trend of dengue cases admitted in a tertiary care hospital Udopi district, Karnataka. Indian Journal of Community Medicine. 2010; 35: 386-9.

Rong-Fu C, Kuen D, Yang, Lin W, Jien-wei L, Chi-Chin C, Jiin-Tsuey C. Different clinical and laboratory manifestations between dengue haemorrhagic fever and dengue fever with bleeding tendency. The Royal Society of Tropical Medicine and Hygiene. 2007; 101: 1106-13.

ชิษณุ พันธ์เจริญ, ดารินทร์ ซอโสตถิกุล, อภิชัย คงพัฒนะโยธิน, วันล่า กุลวิชิต, ธีรพงษ์ ตัณฑวิเชียร, อุษา ทิสยากร. โรคติดเชื้อไวรัสเดงกี่: องค์ความรู้ใหม่และแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง. Chula med J. 2004; 48: 253-63.

Pancharoen C, Thisyakorn U. Coinfection with dengue patients. Pediatr Infect Dis J. 1998 Jan; 17(1): 81-2.

Chokephaibulkit K, Witsuthsarewong W, Veerakul G, Limprayoon K, Pattharakan A, Punnakanta L, Phongsamart W, Chongkolwata V, Suvatte V. Clinical practice guide for the management of dengue hemorrhagic fever (DHF), Siriraj Hospital. Siriraj Med J. 2007; 59: 201-5.

Samantha Nadia H, Balbaseda A. Differences in dengue severity in infants, children and adults in a 3 –year hospital-based study in Nicaragua. Am. J. Trop. Hyg. 2005; 73(6): 1063-70.

Witayathawornwong P. DHF in infants, late infants and older children: a comparative study. Southeast Asian J Trop Med Public Health. 2005; 36(4): 896-90.

Hongsiriwon S. Dengue hemorrhagic fever in infants. Southeast Asian J Trop Med Public Health. 2002; 33(1): 49-53

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-10-29

รูปแบบการอ้างอิง

สีพาชา ส. (2021). อาการและอาการแสดงที่พบในผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก อายุ 0-15 ปี ในโรงพยาบาลบรบือ. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 7(4), 65–75. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/MKHJ/article/view/254525

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย