ประสิทธิภาพของการใช้แนวทางเวชปฏิบัติใมนการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการถอนแอลกอฮอล์แบบผู้ป่วยในโรงพยาบาลมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วย, อาการถอนแอลกอฮอล์บทคัดย่อ
จากข้อมูลผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาสารคาม พบว่า ผู้้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ที่มีปัญหาจากการดื่มแอลกอฮอล์และมีอาการถอนพิษแอลกอฮอล์ (alcohol withdrawal) ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคาม แบบผู้ป่วยใน ปีงบประมาณ 2553, 2554 และ2555 มีจำนวน 69, 75 และ 101 ตามลําดับ ซึ่งพบว่า จำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ค่าเฉลี่ยจำนวนวันนอนรักษาภายในโรงพยาบาลของกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวอยู่ระหว่าง 7-9 วัน การประเมินอาการในภาวะถอนแอลกอฮอล์จึงควรเป็นในแนวทางเดียวกัน
วัตถุประสงค์ของการวิจัย ศึกษาประสิทธิผลของการใช้แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการถอนแอลกอฮอล์แบบผู้ป่วยใน (CPG-AWS) ในโรงพยาบาลมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับสามารถใช้เป็นแนวทางในการรักษาร่วมกัน
วิธีการศึกษา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณา (Descriptive Research) สถานที่ที่ทำการศึกษา คือ โรงพยาบาลมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ระยะเวลาที่ทำการศึกษา คือ ระหว่างเดือน กรกฎาคม – กันยายน 2556 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีอาการถอนแอลกอฮอล์ที่ได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยใน โรงพยาบาลมหาสารคาม จำนวน 20 คน ประเมินความพึงพอใจจากญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยจำนวน 20 คน บุคลากรสาธารณสุขผู้ใช้ CPG-AWS จำนวน 94 คน แบ่งระยะเวลาในการวิจัยเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานและบุคลากร ระยะที่ 2 ระยะดำเนินการนำ CPG-AWS ไปใช้กับผู้ป่วยจำนวน 20 คน ระยะที่ 3 การประเมินผลการปฏิบัติตาม CPG-AWSและประเมินความพึงพอใจของญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขผู้ใช้ CPG-AWS
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (95%) มีอายุเฉลี่ย 38.05 ปี (S.D. = 6.14) อาชีพรับจ้างทั่วไป/งานช่าง (60%) รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 8,750 บาท ระยะเวลาติดแอลกอฮอล์เฉลี่ย 10.07 ปี (S.D.= 2.31) 50% ของกลุ่มตัวอย่างไม่มีประวัติของการชักจากภาวะขาดแอลกอฮล์ กลุ่มตัวอย่างมีประวัติของการสับสนจากภาวะขาดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 ครั้ง (60%) กลุ่มตัวอย่างมีวันนอนในโรงพยาบาล เฉลี่ย 4.75 วัน หลังจากกลุ่มตัวอย่างได้รับการดำเนินการตาม CPG-AWSและประเมินอาการถอนแอลกอฮอล์ (CIWA-AR) ทุกวัน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนดีขึ้น ไม่พบภาวะแทรกซ้อนและไม่มีกลุ่มตัวอย่างเสียชีวิต ญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยมีคะแนนความพึงพอใจมีค่าเฉลี่ย 85.65 (S.D. =7.56) จาก100 คะแนน โดยมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (75%) และบุคลากรสาธารณสุขผู้ใช้ CPG-AWSมีความพึงพอใจต่อการดูแลผู้ป่วยมีค่าเฉลี่ยที่ 86.08 (S.D. = 5.78) ซึ่งอยู่ในระดับมาก (77.65%) เช่นเดียวกัน
สำหรับแนวทางปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการถอนแอลกอฮอล์แบบผู้ป่วยใน โรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นข้อความที่จัดทำขึ้นอย่างเป็นระบบสำหรับช่วยในการตัดสินใจ ช่วยให้บุคลากรมีความสะดวกใช้ เกิดการทำงานร่วมกันเป็นทีม ดังนั้นจึงสามารถยืดหยุ่นในการนำไปใช้ได้ในสถานการณ์จริง เป็นการหาวิธีการแก้ไขปัญหาทางคลินิก เพื่อให้ได้แนวทางการดูแลร่วมกันและลดความหลากหลายของการปฏิบัติ เพิ่มคุณภาพการรักษาให้ดีขึ้น อันจะส่งผลต่อประสิทธิผลของการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการถอนแอลกอฮอล์แบบผู้ป่วยใน โรงพยาบาลมหาสารคามต่อไป
เอกสารอ้างอิง
พันธุ์นภา กิตติรัตนไพบูลย์. แนวเวชปฏิบัติการให้บริการผู้มีปัญหาสุขภาพจิตจากแอลกอฮอล์ในโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน. เชียงใหม่ : โรงพยาบาสวนปรุง; 2549.
ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา. รายงานสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. กรุงเทพฯ: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข; 2553.
ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา. รายงานสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. กรุงเทพฯ: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข; 2556.
Sadock BJ, Sadock VA, editors. Kaplan&Sadockûs Synopsis of Psychiatry : Behavioral sciences/clinical psychiatrist. 10th ed. New York : Lippincott Williams & Wilkins; 2007.
สุวรรณา อรุณพงศ์ไพศาล. แนวทางปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการถอนแอลกอฮอล์แบบผู้ป่วยใน กลุ่มการพยาบาลผู้ป่วยในโรงพยาบาลศรีนครินทร์.ขอนแก่น:มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2556.
ศูนย์ข้อมูลโรงพยาบาลมหาสารคาม. เอกสารคัดสำเนา สถิติการให้บริการผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาสารคาม. มหาสารคาม; 2555.
สมควร จุลอักษร และคณะ. ประสิทธิผลการดูแลผู้ป่วยติดสุราที่มีปัญหาซับซ้อนด้วยระบบการจัดการผู้ป่วยรายกรณี ในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. สุราษฎร์ธานี; 2556.
ศิริพร รองหานาม. การพัฒนาระบบบริการพยาบาลแบบองค์รวมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลมหาสารคาม : โรงพยาบาลมหาสารคาม; 2552.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารนี้เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลมหาสารคาม