การพัฒนาคุณภาพระบบบริการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาหว้า อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • พุทธิดา จันทร์ดอนแดง
  • วรพจน์ พรหมสัตยพรต
  • อุรารัช บูรณะคงคาตรี

คำสำคัญ:

คุณภาพบริการ, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

บทคัดย่อ

การมีกระบวนการในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่จะเกื้อหนุนให้เกิดการพัฒนานำมาซึ่งผลดีต่อสุขภาพ การพัฒนาคุณภาพระบบบริการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษากระบวนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาหว้า อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

วิธีวิจัย : เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการซึ่งการเลือกกลุ่มเป้าหมายโดยวิธีเจาะจง และสุ่มตัวอย่าง จำนวน 50 คน ระหว่างตุลาคม 2555 – เมษายน 2556 ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (Chronic Care Model : CCM) และได้ประยุกต์แนวคิดของไคเซ็น ใช้กระบวนการปรับปรุงระบบงาน (ECRS) ในการจัดการเปลี่ยนแปลงระบบบริการในการพัฒนาคุณภาพระบบบริการผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มารักษาในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาหว้า เครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์ การมีส่วนร่วม ความพึงพอใจในกระบวนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการ และพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลในเชิงปริมาณประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพนั้นได้ใช้การสังเกต การสัมภาษณ์ และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย :  กระบวนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการผู้ป่วยโรคเรื้อรัง  ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ได้แก่ 1) แต่งตั้งคณะทำงาน 2) เก็บรวบรวมข้อมูล 3) วิเคราะห์ข้อมูล 4) วางแผนในการดำเนินงาน 5) ดำเนินการตามแผนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการ 6) การสังเกต ติดตาม และสัมภาษณ์ 7) สังเคราะห์ข้อมูล และ 8) ประเมินผล ถอดบทเรียน ซึ่งได้รูปแบบใหม่ คือ “NAWA  Model” มี 4 องค์ประกอบ คือ (N = Network in the community, A = Alternative care, W = Well – Organization, A = Attention to target Group) มีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทโดยกระบวนการแบบมีส่วนร่วม การมีพฤติกรรมที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพตนเอง ซึ่งผู้ป่วยและญาติมีความพึงพอใจในระดับสูง สามารถลดระยะเวลาในการให้บริการได้ถึง 50 นาที

 การมีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งมีการจัดการระบบบริการที่ดีในการดูแล กลุ่มเป้าหมาย โดยมี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้ป่วย และการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในทุกขั้นตอน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสะสม (HBa1c) และระดับความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ผ่านเกณฑ์คุณภาพในอนาคต

เอกสารอ้างอิง

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาหว้า . สรุปผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุข.; 2555. :11-12.

วรพจน์ พรหมสัตยพรต. การบริหารงานสาธารณสุขท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ธนาเพรส จำกัด; 2550.

Promasatayaprot V., Pongpanich S., Hughes D., and Srithamrongsawat S. Universal coverage health care reforms of Thailand: researching the role of the local fund health security in local government purchasers in the north-eastern region of Thailand. Journal of Medicine and Medical Sciences, January 2012; Vol. 3(1) pp. 049-059.

ชาติ ไทยเจริญ. การศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนตำบล เขตจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อภารกิจด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลชุมชน บัณฑิตวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2547.

ฉกาจ ผ่องอักษร . การออกกำลังกายกับโรคเบาหวาน. กรุงเทพฯ : คัลเลอร์ฮาร์โมนี; 2547.

อรษา ขวัญเมือง. การพัฒนากระบวนการบริการคลินิกเบาหวานของโรงพยาบาลอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนา บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์; 2548.

นิระมล สมตัว . การศึกษาระบบข้อมูลผู้ป่วยเบาหวานในศูนย์สุขภาพชุมชน : กรณีศึกษา ศูนย์สุขภาพชุมชนแห่งหนึ่ง สังกัดกระทรวงสาธารณสุข. มหาวิทยาลัยขอนแก่น;2550.

สรัลรัตน์ พันธ์สินทวีสุข. การพัฒนาความสามารถการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในศูนย์สุขภาพชุมชนบ้านผือตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตร์

มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารสาธารณสุข บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2551.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-03-18

รูปแบบการอ้างอิง

จันทร์ดอนแดง พ. . ., พรหมสัตยพรต ว. ., & บูรณะคงคาตรี อ. . (2025). การพัฒนาคุณภาพระบบบริการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาหว้า อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 12(3), 84–94. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/MKHJ/article/view/274246

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย