พฤติกรรมด้านทันตสุขภาพและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันแท้ผุในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในเขตอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้แต่ง

คำสำคัญ:

เด็กนักเรียน, พฤติกรรมด้านทันตสุขภาพ, โรคฟันแท้ผุ

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความชุกและความสัมพันธ์ด้านทันตสุขภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคฟันแท้ผุในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในเขตอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์  วิธีการวิจัย การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional Analysis  Study) ในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 382 คน ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนที่เข้ารับการศึกษาในเขตพื้นที่อำเภอท่าคันโท ปีการศึกษา 2562 โดยเก็บข้อมูล ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2562 ระยะเวลา 2 เดือน เลือกกลุ่มตัวอย่างจากเด็กนักเรียนทั้งหมดในพื้นที่ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป พฤติกรรมด้านทันตสุขภาพ และแบบประเมินสุขภาพช่องปาก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติอนุมานเพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ด้วยสมการถดถอยพหุคูณลอจิสติก (Multiple Logistic Regression)  เพื่ออธิบายค่า Adjusted Odd ratio (Adj.OR), ช่วงของค่าความเชื่อมั่น (95% of Confidence Interval; 95%CI) และ ค่า p-value

ผลวิจัย พบว่า เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีปัญหาโรคแท้ฟันผุ เท่ากับ ร้อยละ 63.61 (95%CI = 54.21 – 64.11) ค่าเฉลี่ยของโรคฟันผุ เท่ากับ 1.67 ซี่/คน และมีค่าเฉลี่ยของโรคฟันแท้ผุ ถอน อุด (DMFT) เท่ากับ 0.7 ซี่/คน ส่วนปัจจัยที่พบความสัมพันธ์ของการเกิดโรคฟันผุ คือ นักเรียนหญิง เท่ากับ 1.62 (Adj.OR = 1.62, 95%CI= 1.07 – 2.64, p-value=0.024) พฤติกรรมการไม่แปรงฟันก่อนนอน เท่ากับ 1.75 (Adj.OR = 1.75, 95%CI= 1.12 – 2.75, p-value=0.014), การเลือกใช้ขนแปรงที่มีลักษณะขนแปรงปานกลาง-แข็ง เท่ากับ 1.60 (Adj.OR = 1.60, 95%CI= 1.02 – 2.50, p-value=0.042)

สรุป การศึกษาครั้งนี้ พบว่า พฤติกรรมการแปรงฟันก่อนนอนมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันแท้ผุของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในพื้นที่ รวมทั้งปัจจัยของเพศหญิง ลักษณะของขนแปรงมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันแท้ผุของเด็กนักเรียนเช่นเดียวกัน ดังนั้น การศึกษาในครั้งนี้สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวางแผนการดำเนินงานเชิงนโยบาย พัฒนารูปแบบการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาทันตสุขภาพในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในพื้นที่ต่อไป

Author Biography

Supasin Deeraksa, Department of Dental Public Health, Thakhuntho Hospiital, Kalasin Provincial Public Health Office, Kalasin Province. 46190

ชื่อ  นามสกุล                                   ดร. ศุภศิลป์ ดีรักษา  (Dr.Supasin Deeraksa)

วัน  เดือน  ปีเกิด                              วันที่  28 พฤษภาคม พ.ศ. 2525

สถานที่ทำงาน                                ฝ่ายทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลท่าคันโท 183 หมู่ที่ 1 ตำบล นาตาล อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ 46190  โทร 0817682901

ประวัติการศึกษา                            

             พ.ศ. 2562                           ปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิต (ส.ด.)  มหาวิทยาลัยขอนแก่น (เชี่ยวชาญด้านความรอบรู้และพฤติกรรมด้านทันตสุขภาพ)

References

อาซีย๊ะ แวหะยี, อัมพาพรรณ ผลพานิชย์, อัญชลี พงศ์เกษตร, กมลวรรณ วณิชชานนท์, ทวี คำมินทร์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีผลต่อการเกิดโรคฟันแท้ผุ ของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 2560: 4(2), 200-13 .
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560. กรุงเทพมหานคร:สำนักงานกิจการพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก. 2561.
ลักขณา อุ้ยจิรากุล, สุภาภรณ์ ฉัตรชัยวิวัฒนา, จันทนา อึ้งชูศักดิ์, มุขดา ศิริเทพทวี. ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเลี้ยงดูและโรคฟันผุในเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดสระแก้ว. วิทยาสารทันตสาธารณสุข, 2556: 18(2), 23-32.
พรรณราย ทัพนันตกุล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับโรคฟันผุในเด็กปฐมวัย อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิชาเอกสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์) มหาวิทยาลัยมหิดล; 2556
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข. การตรวจสุขภาพช่องปากในเด็ก 6-12 ปี โดยทันตบุคลากร. [ออนไลน์] 2562 [อ้างเมื่อ 4 พฤษภาคม 2562] . จาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php?source=pformated/format1.php&cat_id=b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d882b&id=e9fb648fe9f1858878714a410222eef1
Hsieh FY, Bloch DA, Larsen MD. A simple method of sample size calculation for linear and logistic regression. Stat Med 1998;17:1623-34.
ศุภกร ศิริบุรี. ความสัมพันธ์ของปัจจัยกับพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพช่องปากด้วย PRECEDE FRAMEWORK ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 2560: 11(3), 355-68.
อรุณ จิรวัฒน์กุล. ชีวสถิติสำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 1 ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา. 2547.
Zhang S., Chau AM., Lo ECM., and Chu CH. Dental caries and erosion status of 12-year-old Hong Kong children. BMC Public Health 14(1):1-7.
Youssefi MA., Afroughi S. Prevalence and Associated Factors of Dental Caries in Primary Schoolchildren: An Iranian Setting. Hindawi Int J of Dent, 2020. 1-7.
Obregon-Rodriguez N., Fernandez-Riveiro P., Pinairo-Lamas M., Smyth-Chamosa E., Montes-Martinez A., and Suarez-Cunqueiro MM. Prevalence and caries-related risk factors in schoolchildren of 12- and 15-year-old: a cross-sectional study. BMC Oral Health, 2019: 19(120), 1-11.
Smyth E., Caamano F. Factors related to dental health in 12-year-old children: a cross-sectional study in pupils. Gaceta Sanitaria, 2014: 19(2):113-9.
วราภร คุปติศาสตร์. สภาวะฟันผุและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับฟันผุของเด็กชาวไทยพื้นราบและไทย ภูเขา อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสาธารณสุขล้านนา, 2556: 9(2), 137-50.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-06-30

ฉบับ

บท

บทความวิจัย (Research article)