ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
คำสำคัญ:
กิจกรรมนักศึกษา, ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษา, ปัญหาที่พบจากการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาความต้องการและเปรียบเทียบความ ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษา จำแนกตามระดับชั้นปี รวมทั้งศึกษา ปัญหาอุปสรรคที่พบจากการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษา ของนักศึกษา พยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ชั้นปีที่ 1- 4 ที่ศึกษาในปีการศึกษา 2552 จำนวน 242 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ความคิดเห็น มีค่าความเชื่อมั่นรวมทั้งฉบับเท่ากับ 0.80 วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์ แอลฟาของคอนบาช และการวิเคราะห์ความแปรปรวน แบบทางเดียว
ผลการวิจัย พบว่า ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาของ นักศึกษาพยาบาลโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก ความต้องการ เข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาของนักศึกษาพยาบาล ที่มีชั้นปีต่างกันโดยรวม และรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ชั้นปีที่ แตกต่างกันคือชั้นปีที่ 1 กับ ชั้นปีที่ 2 และ ชั้นปีที่ 4 กับ ชั้นปีที่ 2 โดยชั้นปีที่ 1 และ ชั้นปีที่ 4 มีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมสูงกว่าชั้นปีที่ 2 การเข้า ร่วมกิจกรรมนักศึกษาโดยรวม พบปัญหาอุปสรรคอยู่ในระดับปานกลาง ปัญหาที่พบมากที่สุดตามลำดับ คือ เรียนหนักรู้สึกเหนื่อยล้าจึงไม่ อยากเข้าร่วมกิจกรรม รูปแบบการจัดกิจกรรมไม่น่าสนใจ การจัดกิจกรรม บ่อยครั้งเกินไป และระยะเวลาในการจัดกิจกรรมไม่เหมาะสม ข้อเสนอ แนะวิทยาลัยควรลดจำนวนกิจกรรมลงโดยเลือกจัดเฉพาะกิจกรรมที่มี ประโยชน์และน่าสนใจมากที่สุด รองลงมา คือ ควรประชาสัมพันธ์วัตถุ ประสงค์ และรายละเอียดของกิจกรรมให้ทราบล่วงหน้าอย่างชัดเจน ควรจัดกิจกรรมในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยไม่ตรงกับเวลาเรียนหรือวันหยุด และควรสอบถามความต้องการของนักศึกษาก่อนจัดกิจกรรม
References
2. สำเนาว์ ขจรศิลป์. มิติใหม่ของกิจการนักศึกษา 2 : การพัฒนานักศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต;2542.
3. คณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษา. รายงานการประเมินตนเองของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ปีการศึกษา 2550. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา;2551.
Downloads
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารทันตาภิบาล