ประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รูปแบบผู้ป่วยในที่บ้าน โรงพยาบาลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น

ผู้แต่ง

  • ทิพวรรณ ชมบุญ -

คำสำคัญ:

โปรแกรมการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 , รูปแบบผู้ป่วยในที่บ้าน, การจัดการตนเอง

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รูปแบบผู้ป่วยในที่บ้าน โรงพยาบาลแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น

รูปแบบการวิจัย : เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดสองครั้งก่อนหลัง

วัสดุและวิธีการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รับบริการคลินิกโรคเรื้อรังแผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลแวงใหญ่ระหว่าง กันยายน ถึง ตุลาคม 2567 ที่มีคุณสมบัติ คือเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แผนปัจจุบัน และมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง DTX> 250-400 mg% HbA1C>11% และไม่มีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน (DKA, HHS) หรือภายหลังจากรักษาภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันเรียบร้อยแล้ว อาศัยอยู่อำเภอแวงใหญ่ และรับบริการโรงพยาบาลแวงใหญ่ ทั้งเพศชาย และเพศหญิง ดูแลตนเองได้ หรือมีสมาชิกในครอบครัวให้การดูแล มีโทรศัพท์มือถือ และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานได้ดี มี และใช้อุปกรณ์ในการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวานได้ อ่านออก เขียนได้ มีความสามารถในการมองเห็นไม่มีปัญหาสายตา จำนวน 45 คน เข้าร่วมโปรแกรม 6 ขั้นตอน ตั้งเป้าหมาย รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ตัดสินใจ ลงมือปฏิบัติ ประเมินผล เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ระหว่างธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ 2568 เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ ได้ค่า IOC เท่ากับ 0.78 ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาด้านความรู้เท่ากับ 0.81 ด้านทัศนคติ เท่ากับ 0.82 ด้านพฤติกรรมเท่ากับ 0.81 ด้านความพึงพอใจเท่ากับ 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Paired t-test ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05

ผลการวิจัย : พบว่า กลุ่มตัวอย่างภายหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยความรู้สูงกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) มีทัศนคติต่อการดูแลตนเอง และพฤติกรรมการดูแลตนเอง หลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อโปรแกรมโดยรวมอยู่ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะ : การจัดโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยแบบผู้ป่วยในที่บ้าน ที่เน้นส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการจัดการตนเองตามบริบทของผู้ป่วยโดยมีบุคลากรสาธารณสุขคอยให้การสนับสนุนจะส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มีความรู้ มีทัศนคติ และมีพฤติกรรมการดูแลตนเองที่สูงขึ้นได้

เอกสารอ้างอิง

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ. แนวทาง เวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560 [อินเตอร์เน็ต].พิมพ์ครั้งที่ 3 ปทุมธานี: บริษัทร่มเย็นมีเดียจำกัด; 2560 [เข้าถึงเมื่อ 20 ธันวาคม 2567]; เข้าถึงได้จาก: https://drive.google.com/file/d/1M2QULeZoLEhkMexgMK6t-MvgvfQZe90S/view

กระทรวงสาธารณสุข. ฐานข้อมูล HDC กระทรวงสาธารณสุข 2567. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 20 ธันวาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/center/public/kpi/1/2024

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางและมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยในที่บ้าน (Home Ward) [อินเตอร์เน็ต]. ฉบับที่ 1. กรกฎาคม 2565. นนทบุรี: 2565 [เข้าถึงเมื่อ 20 ธันวาคม 2567]; เข้าถึงได้จาก :https://www.dms.go.th/backend//Content/Content_File/Publication/Attach/25650805113031AM_homeward.pdf

สาวิตรี นามพะธาย. ผลของโปรแกรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ [วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยคริสเตียน; 2561.

โรงพยาบาลแวงใหญ่. รายงานผลการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home ward). (อัดสำเนา); 2567.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W.. Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 1970;30(3), 607–10.

อารมณ์ อร่ามเมือง. ประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ศูนย์สุขภาพชุมชนกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสารเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต 2566;3(1):25-36.

ภารดี วรรณพงษ์ และสุทิน ใจรักษ์. ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อการควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือดของบุคลากรซึ่งป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. วารสารวิชาการสาธารณสุขจังหวัดตาก 2566;4(1): upload_7401-5051.pdf

Bloom, B. S. J. (Ed.). Taxonomy of Education Objective, Hand Book 1: Cognitive Domain. David Mckay.1975.

Best, J. W. Research in Education (3rd ed.). Prentice Hall.1977.

บุญใจ ศรีสถิตนรากูร. การพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย : คุณสมบัติการวัดเชิงจิตวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555.

สำเริง จันทรสุวรรณ. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. ขอนแก่น: ภาควิชาสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2547.

อัญชลี ชีวะประเสริฐ, จุฑารัตน์ เข็มจริยา, รัชฎาภรณ์ อาษามนต์, และเขมิกา ศิริขันธ์. การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยในที่บ้าน (Home Ward) โรงพยาบาลโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ 2567; 5(ฉบับเพิ่มเติม 1):162-75.

กนกวรรณ ด้วงกลัด, ปัญญรัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา, และณัฐกมล ชาญสาธิตพร. โปรแกรมการส่งเสริมการจัดการตนเองในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล 2566; 36(1): 66–83.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-14

รูปแบบการอ้างอิง

ชมบุญ ท. (2025). ประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รูปแบบผู้ป่วยในที่บ้าน โรงพยาบาลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น. วารสารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม, 3(2). สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/nkp/article/view/275208