อุบัติการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในโรงพยาบาลสมุทรสาคร ในช่วงปี 2558

ผู้แต่ง

  • Jitpannee Boontongkong, M.D. กลุ่มงานจักษุวิทยา โรงพยาบาลสมุทรสาคร

คำสำคัญ:

ภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา, การตรวจคัดกรอง, ปัจจัยเสี่ยง

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์:  เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ของภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในผู้ป่วยโรงพยาบาลสมุทรสาครและศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในปี 2558

วิธีการศึกษาเป็นการศึกษาอุบัติการณ์ของภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา และความสัมพันธ์ของปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบย้อนหลัง (retrospective descriptive study) ในผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลสมุทรสาครที่มารับการถ่ายภาพจอประสาทตา ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 4,487 ราย โดยเก็บข้อมูลที่ศึกษาจากเวชระเบียนของผู้ป่วยเบาหวานที่มารักษาในหน่วยงานผู้ป่วยนอกใช้กล้องถ่ายภาพจอประสาทตาชนิดไม่ขยายม่านตา (Topcon®) และร่วมกับการตรวจโดยใช้ indirect ophthalmoscope เพื่อการวินิจฉัยภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาอ่านผลโดยจักษุแพทย์ สถิติที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ ร้อยละ และ chi-square test

ผลการศึกษา:  ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการคัดกรอง 4,487 ราย มีภาวะเบาหวานขึ้นตา 879 ราย (ร้อยละ 19.6)  พบว่ามีความสัมพันธ์กับอายุ (กลุ่มอายุตั้งแต่ 51 ปีขึ้นไป) ระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน (5 ปีขึ้นไป) ระดับน้ำตาลในเลือด (ที่มากกว่า 130 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) และวิธีการรักษา (การรักษาด้วยยาฉีด) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

สรุป:  อุบัติการณ์ของภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในผู้ป่วยโรงพยาบาลสมุทรสาคร ในปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 19.6 กลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 51 ปีขึ้นไป มีระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน 5 ปีขึ้นไป มีระดับน้ำตาลที่มากกว่า 130 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และได้รับการรักษาด้วยยาฉีด เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะมีภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นควรคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานในกลุ่มดังกล่าวนี้ก่อนเป็นเกณฑ์เร่งด่วน เพื่อที่จะแก้ไขภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาได้

ประวัติผู้แต่ง

Jitpannee Boontongkong, M.D., กลุ่มงานจักษุวิทยา โรงพยาบาลสมุทรสาคร

ว.ว. จักษุวิทยา

เอกสารอ้างอิง

1. Mathers CD, Loncar D. Projections of global mortality and burden of disease from 2002 to 2030.PLoS Med 2006;3(11):e442.

2. Bourne RR, Stevens GA, White RA, et al. Causes of vision loss worldwide, 1990-2010: a systematic analysis. Lancet Glob Health 2013;1(6):e339-49.

3. Aekplakorn W, Stolk RP, Neal B, et al. The prevalence and management of diabetes in Thai adults: the international collaborative study of cardiovascular disease in Asia. Diabetes Care 2003;26(10):2758-63.

4. เมทินี ศิริมหานคร, ปุญญาวีร์ อาราเม, พิริญา สุ่มสวัสดิ์, และคนอื่นๆ. ความชุกของภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในจังหวัดนครปฐม. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2553;19:226 - 33.

5. Jenchitr W, Samaiporn S, Lertmeemongkolchai P, et al. Prevalence of diabetic retinopathy in relation to duration of diabetes mellitus in community hospitals of Lampang. J Med Assoc Thai 2004;87:1321-6.

6. Supapluksakul S, Ruamviboonsuk P, Chaowakul W. The prevalence of diabetic retinopathyin Trang Province determined by retinal photography and comprehensive eye examination. J Med Assoc Thai 2008;91:716-22.

7. Wilkinson CP, Ferris FL, Klein RE, et al. Proposed international clinical diabetic retinopathy and diabetic macular edema disease severity scales. Ophthalmology 2003;110:1677-82.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-09-25

รูปแบบการอ้างอิง

1.
Boontongkong J. อุบัติการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในโรงพยาบาลสมุทรสาคร ในช่วงปี 2558. Reg 4-5 Med J [อินเทอร์เน็ต]. 25 กันยายน 2019 [อ้างถึง 10 ธันวาคม 2025];38(3):226-30. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/reg45/article/view/217976

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ