การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรี

Authors

  • Piyanuch Srisukont M.D., Banlat Hospital
  • Siraprapa Boonmee Banlat Hospital
  • Thunyaporn Chuenklin Prachomklao College of Nursing

Keywords:

ระบบการการดูแลสุขภาพระยะกลาง, การพัฒนาระบบ

Abstract

วัตถุประสงค์: ศึกษาการดำเนินงานและพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรีเครือข่ายอำเภอบ้านลาด ประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานตามระบบการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรีเครือข่ายอำเภอบ้านลาด

วิธีการศึกษา: ใช้รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา (research and development: R&D) กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการดูแลสุขภาพระยะกลาง จำนวน 3 กลุ่มๆ ละ 8 คน ผู้ป่วยระยะกลาง 3 กลุ่มโรคเป้าหมาย คือ โรคหลอดเลือดสมอง บาดเจ็บที่สมอง และบาดเจ็บที่ไขสันหลัง เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 30 คน และผู้ดูแล จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ ประเด็นการอภิปรายกลุ่ม แบบสอบถาม           แบบประเมินความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและแบบประเมินความพร้อมในการพึ่งตนเองที่บ้านของผู้ดูแล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ จำนวน ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน paired t test และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษา: สถานการณ์การดำเนินการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรี เครือข่ายอำเภอ          บ้านลาด พบปัญหาการเข้าถึงบริการไม่ครอบคลุม ผู้ป่วยไม่อยากอยู่โรงพยาบาล ผู้ดูแลขาดความรู้และทักษะการฟื้นฟูสภาพและระบบบริการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรี เครือข่ายอำเภอบ้านลาด ประกอบด้วย 1) หลักการและวัตถุประสงค์ 2) ขั้นตอนการดำเนินงานการดูแลระยะกลาง 3) การสนับสนุนการดำเนินงานของระบบ และ 4) การประเมินผล การประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานตามระบบที่พัฒนาขึ้น พบว่า อัตราการเข้าถึงบริการ เท่ากับร้อยละ 100 ค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน (Barthel index: BI) สูงกว่าก่อนรับการดูแลตามต้นแบบระบบการดูแลสุขภาพระยะกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน เท่ากับร้อยละ 0 ญาติและผู้ดูแลผ่านการประเมินความพร้อมในการดำเนินชีวิตอย่างพึ่งตนเองในการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทางกายที่บ้านเท่ากับร้อยละ 100

สรุป: ระบบการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรี เครือข่ายอำเภอบ้านลาดที่พัฒนาขึ้นนี้ เป็นระบบที่สามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิผล ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างครอบคลุม สามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน มีความปลอดภัยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งญาติหรือผู้ดูแลมีความพร้อมที่จะพึ่งตนเองในการฟื้นฟูสภาพที่บ้าน

 

References

อรทัย เขียวเจริญ, ศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย, วัชรา ริ้วไพบูลย์, และคณะ. การพัฒนาการจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยระยะกึ่งเฉียบพลันและไม่เฉียบพลันในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2558;24(3):493–509.

กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยระยะกลาง Guideline for Intermediate care สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan). สมุทรสาคร: บอร์นทูบีพับลิชชิ่ง; 2562: 8–14.

Pearson M, Hunt H, Cooper C, et al. Providing effective and preferred care closer to home: a realist review of intermediate care. Health Soc Care Community 2015:23(6):577–93.

เบญจพร สุธรรมชัย,นภัส แก้ววิเชียร. สถานการณ์การดำเนินงาน Intermediate care ของผู้สูงอายุในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: บียอนด์พับลิสซิ่ง; 2561: 19–39.

กระทรวงสาธารณสุข. นโยบาย Intermediate care [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ1 ธันวาคม 2561]; เข้าถึงได้จาก: https://r8way. moph.go.th/r8wayadmin/page/uploads_fil

ธัญพร ชื่นกลิ่น, นงณภัทร รุ่งเนย, นภัส แก้ววิเชียร, และคณะ. ประเมินนโยบายการดูแลสุขภาพระยะกลางของกระทรวงสาธารณสุข: การวิเคราะห์เชิงปริมาณ. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2564;15(2):183–99.

สำนักงานเขตสุขภาพที่ 5. เอกสารประกอบการประชุม: สรุปผลการพัฒนา Service plan: Intermediate care ปี 2563; 2564. ราชบุรี: สำนักงานเขตสุขภาพที่ 5; 2564.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน intermediate care. เพชรบุรี: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี; 2564.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี. เอกสารประกอบการตรวจราชการและนิเทศงานกระทรวงสาธารณสุข กรณีปกติ รอบที่ 2 ประจำปี 2564 จังหวัดเพชรบุรี. วันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2564. เพชรบุรี: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี; 2564: 141–4.

World Health Organization. Monitoring the Building Blocks of Health Systems: A Handbook of Indicators and Their Measurement Strategies. Geneva Switzerland: WHO Document Production Services; 2010: 1–85.

อวยพร จงสกุล, ศิริพร สีสันต์, กัญญา เลี่ยนเครือ, และคณะ. รูปแบบการจัดการการดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองเพื่อฟื้นฟูความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา: OIMCCE Model. วารสารแพทย์เขต 4-5 2563;39(3):454–71.

นงณภัทร รุ่งเนย, ธัญพร ชื่นกลิ่น, นภัส แก้ววิเชียร, และคณะ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความยั่งยืนของนโยบายการดูแลสุขภาพระยะกลางในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2565,31(1):112–23.

Perez LM, Inzitari M, Quinn TJ, et al. Rehabilitation Profiles of Older Adult Stroke Survivors Admitted to Intermediate Care Units: A Multi-Centre Study. PloS ONE 2016;11(11):e0166304.

Kaambwa B, Bryan S, Barton P, et al. Cost and health outcomes of intermediate care: results from five UK case study sites. Health and Social Care in the Community. 2008;16(6):573–81.

Mabunda SA, London I, Piennaar D. An evaluation of the role of an intermediate care facility in the continuum of care in Western Cape, South Africa. Int J Health Policy Manag. 2018;7(2):167–79.

Published

2022-06-30

How to Cite

1.
Srisukont P, Boonmee S, Chuenklin T. การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพระยะกลางของจังหวัดเพชรบุรี. Reg 4-5 Med J [internet]. 2022 Jun. 30 [cited 2026 Jan. 1];41(2):179-92. available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/reg45/article/view/258491