Development of Care Model for Diabetes or Hypertensive Patients in the New Era , Ampur Mueang , Nakhon Pathom
Keywords:
diabetes patients, hypertensive patients, telemedicine, 6 building blocks, new eraAbstract
Objective: This was to study the situation and develop a model and evaluate the effectiveness of a care model with telemedicine for diabetes or hypertensive patients in new era under the concept of health systems of the World Health Organization (6 building blocks).
Method: This was a research and development.There were 3 steps in the operation: 1) to study situations of caring for diabetes or hypertensive patients in Amphur Mueang, Nakhon Pathom; 2) to develop a care model for diabetes or hypertensive patients; 3) to evaluate the effectiveness of the care model for diabetes or hypertensive patients in new era.
The samples were 1) 25 health care workers who worked in caring for diabetes or hypertensive patients; 2) 25 health care workers who provided telemedicine services, by purposive sampling; 3) 214 diabetes and 268 hypertensive patients receiving telemedicine during January–December 2022 , using the proportional stratified random sampling.
The tools used were interview forms, patient treatment record forms, and a satisfaction and effectiveness questionnaires which was validated by experts for content validity with Cronbach's alpha of 0.89. Data were analyzed using percentage values, mean, standard deviation, paired t test, and one sample t test.
Results:
- The situation of caring for diabetes or hypertensive patients in the sub-districts on the edge of Amphur Mueang, Nakhon Pathom tended to increase. Patients lacked continuous treatment ,controlled blood sugar, and controlled blood pressure.
- Health care workers: after using the patient care model; the opinion of overall management level was good (= 3.71, SD = 0.458), except that financing was at a moderate level (= 2.69, SD = 0.841).
- 3. Patients : for diabetes patients; the mean FBS level decreased from 168.57 to 148.20 mg/dl, which was a statistically significant decrease (p-value < .001). The mean HbA1C decreased statistically not significantly. For hypertensive patients; the average systolic blood pressure and diastolic blood pressure decreased significantly (p-value < .001). The systolic blood pressure could not be controlled according to the criteria, but the diastolic blood pressure could be controlled significantly (p-value = .004). The overall satisfaction of the patients was at the highest level (= 4.81, SD = 0.472).
Conclusion: After the developed model, health care workers were encouraged to manage diabetes or hypertensive patients using telemedicine to cover the concept of 6 building blocks, at a good level. As a result; patients can access services conveniently, efficacy of control of FBS and BP were improved including patients’ satisfaction.
References
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม. เอกสารประกอบการตรวจราชการและนิเทศงานประจำปี 2564 รอบที่ 2; 10-11 สิงหาคม 2564; นครปฐม: ม.ป.ป.; 2564: หน้า 88.
โรงพยาบาลนครปฐม. รายงานการประเมินตนเอง (SAR 2020) โรงพยาบาลนครปฐม.นครปฐม : โรงพยาบาลนครปฐม; 2564: หน้า 45–6.
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการจัดบริการคลินิกเบาหวานความดันโลหิตสูงวิถีใหม่แบบยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง สำหรับระดับผู้ปฏิบัติงาน. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์; 2563: หน้า 3.
รุจฬ์สวัตต์ ครองภูมินทร์. การแพทย์ทางไกลแอปพลิเคชันพบหมอกับความปกติใหม่หลังโควิด 19 ด้วยมุมมองทางทฤษฎีสื่อสารมวลชน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต 2564;17(1):18–36.
วิชุดา จันทะศิลป์. การดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน: ในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา 2565;2(2):1–8.
วนิดา สมภูงา, มะลิ สุปัตติ. ประสิทธิผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโรคเบาหวานด้วยหลักการ 6 building blocks จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ 2565;15(1):142–55.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. Six Building Blocksof A Health System.
KIM Release 2562;5(5):1.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน พ.ศ.2560. พิมพ์ครั้งที่ 2. ปทุมธานี: รมเย็นมีเดีย; 2560: 21–76.
วินัย ปะสิ่งชอบ. การรักษาผู้ป่วยเบาหวานเครือข่ายบริการสุขภาพโรงพยาบาลมาบตาพุด จังหวัดระยอง.วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ 2558; 22(1): 21–33.
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย.แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ.2562. เชียงใหม่: ทริคธิงค์การพิมพ์; 2562: 9–25.
สุพัตรา ศรีวณิชชากร, มณฑนา พิพัฒน์เพ็ญ. การดูแลตนเอง เพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในบริบทไทย. กรุงเทพฯ: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง; 2561: 5–10.
เนตรเพชรรัสมิ์ ตระกูลบุญเนตร. ความพึงพอใจของผู้รับบริการต่อการให้บริการของแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่า. วารสารพยาบาลตำรวจ 2558;9(2): 64–74.
รัชนี หลงสวาสดิ์. ความพึงพอใจของผู้รับบริการต่อการให้บริการของแผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล 2562;4(3): 60–70.
จารุวัณย์ รัตนะมงคลกุล. แอปพลิเคชันไดเอทซ์ (Dietz): เทเลเมดิซีนเพื่อการติดตามการรักษาและการดูแลตัวเองของผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารสมาคมเวชสารสนเทศไทย 2565;1(1): 46–54.
ร่างทอง พันธ์ชัย. ความพึงพอใจของผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่อการให้บริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสขุภาพตำบล เขตอำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร วารสารบัณฑิตศึกษา 2557;52(11): 149–55.
เกรียงกมล เหมือนกรุด, ศิริพักตร์ มัฆวาล, ปาจารีย์ อุดมสุข, และคณะ. ความสำเร็จในการแปลงนโยบายการดูแลผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงสู่การปฏิบัติในสถานบริการสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 : กรณีศึกษา NCD Clinic Plus ปี พ.ศ.2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565]; เข้าถึงได้จาก: https://phcn.hss.moph.go.th/fileupload_doc/2021-10-14-7-21-3739686.pdf
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนบทความ แต่หากผลงานของท่านได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ลงวารสารแพทย์เขต 4-5 จะคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรกด้วยเหตุที่บทความจะปรากฎในวารสารที่เข้าถึงได้ จึงอนุญาตให้นำบทความในวารสารไปใช้ประโยชน์ได้ในเชิงวิชาการโดยจำเป็นต้องมีการอ้างอิงถึงชื่อวารสารอย่างถูกต้อง แต่ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
