หุ่นจําลองแสดงผลของควันบุหรี่ต่อหลอดเลือดหัวใจ : การรับรู้ของผู้ป่วย คนทั่วไป และการประเมินโดยบุคลากรทางการแพทย์

ผู้แต่ง

  • ทัศนียา ไกรสรสวัสดิ์ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
  • สุเพียร โภคทิพย์ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
  • แจ่มจันทร์ พวงจันทร์ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
  • เรวดี ดาศรี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
  • ณิชมาศ บุญสุข พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
  • จิรวัฒน์ มูลศาสตร์ จิตแพทย์ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี

คำสำคัญ:

หุ่นจําลอง ควันบุหรี่ การสูบบุหรี่ ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ชนิด STEMI

บทคัดย่อ

          การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการรับรู้ถึงผลของควันบุหรี่ที่มีต่อหลอดเลือดหัวใจโดยใช้หุ่นจําลองคนครึ่งตัวที่สร้างขึ้นเองด้วยเทคนิคเปเปอร์มาเช่ในลักษณะคนสูบบุหรี่และจําลองการเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบจากควันบุหรี่ และประเมินการนําไปใช้สอนโดยพยาบาลผู้ช่วยเหลือให้เลิกบุหรี่ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI ที่สูบบุหรี่ จํานวน 45 คน กลุ่มประชาชนทั่วไป จํานวน 56 คน และพยาบาลวิชาชีพ จํานวน 17 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบประเมินการรับรู้หลังการสอนด้วยหุ่นจําลอง และแบบประเมินความพึงพอใจจากการใช้หุ่นจําลองในการสอน ผลการศึกษาพบว่าการรับรู้ของผู้ป่วยถึงผลของควันบุหรี่ต่อหลอดเลือดหัวใจอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดโดยผู้ป่วยร้อยละ 96 เห็นว่าทําให้เข้าใจพิษภัยของควันบุหรี่ง่ายขึ้น รวมทั้งมีความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่ ร้อยละ 100 การรับรู้ของประชาชนทั่วไปถึงผลของควันบุหรี่ต่อหลอดเลือดหัวใจและความสัมพันธ์กับภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดในทุกหัวข้อ และเห็นความสําคัญของการงดสูบบุหรี่ ร้อยละ 100 สําหรับกลุ่มพยาบาลประเมินว่าหุ่นจําลองสัมพันธ์กับเรื่องที่สอนและสามารถนําไปใช้ได้จริงโดยมีความพึงพอใจจากการใช้งานในระดับมากถึงมากที่สุด ดังนั้นหุ่นจําลองนี้จึงน่าจะทําให้ทั้งผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปสามารถรับรู้ถึงผลของควันบุหรี่ที่มีต่อหลอดเลือดหัวใจได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ซึ่งจะนําไปสู่การสร้างแรงจูงใจ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการมีสุขภาพที่ดีต่อไป

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-08-01