การศึกษาเปรียบเทียบลักษณะทางคลินิกของทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้าย กับทารกคลอดครบกำหนด ในโรงพยาบาลหนองบัวลำภู

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ : ทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้ายมีอัตราเพิ่มมากขึ้น และทารกกลุ่มนี้มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนมากกว่าทารกคลอดครบกำหนด วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบลักษณะทางคลินิกของทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้ายและทารกคลอดครบกำหนด

วัสดุและวิธีการ : งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยรูปแบบ Case-control study เก็บรวบรวมข้อมูลทารกที่คลอดใน รพ.หนองบัวลำภู ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61-30 พ.ย. 62 จากบันทึกเวชระเบียนย้อนหลัง ได้ขนาดตัวอย่างกลุ่มละ 100 คน กลุ่มทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้ายคือ ทารกที่คลอดอายุครรภ์ระหว่าง 34 สัปดาห์ ถึง 36 สัปดาห์ 6 วัน เรียงตามลำดับ 100 รายแรก สุ่มแบบ Systematic และกลุ่มทารกคลอดครบกำหนดคือ อายุครรภ์ระหว่าง 37 ถึง 40 สัปดาห์ ในวันเดียวกันและเวลาใกล้เคียงกันกับกลุ่มตัวอย่างแรก 100 คน รวม 200 คน โดยเกณฑ์การคัดออก คือ ทารกตายคลอด อายุครรภ์น้อยกว่า 34 สัปดาห์ ทารกพิการตั้งแต่แรกเกิด และทารกที่มีโครโมโซมผิดปกติ

ผลการศึกษา : พบว่าลักษณะทางคลินิกของทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้าย มีปัญหาตัวเหลือง (P-value < 0.001) อุณหภูมิร่างกายต่ำ (P-value = 0.029) ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (P-value = 0.002) ภาวะติดเชื้อ (P-value <0.001) และภาวะ respiratory distress syndrome (P-value < 0.001) มากว่าทารกคลอดครบ กำหนดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้ายยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ทรัพยากรในการรักษามากกว่าทารกคลอดครบกำหนด ไม่ว่าจะเป็นความจำเป็นที่จะต้องให้surfactant (P-value
0.029) การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ (P-value < 0.001) ความจำเป็นที่จะต้องนอนรักษาในNICU (P-value 0.001) จำนวนวันนอนที่นาน (P-value < 0.001) และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่มากกว่า(P-value < 0.001) อีกด้วย

สรุป : ลักษณะทางคลินิกที่สำคัญและต้องเฝ้าระวังของทารกคลอดก่อนกำหนดระยะท้าย ได้แก่ภาวะตัวเหลือง และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งต้องนำมาจัดทำเป็นแนวปฏิบัติในการดูแลและป้องกันเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่ สำคัญต่อไปเช่น การตรวจเลือดหาภาวะตัวเหลืองเร็วขึ้น การตรวจน้ำตาลในเลือดของทารกคลอดก่อนกำหนดตั้ง แต่แรกคลอด เป็นต้น รวมไปถึงการพิจารณายับยั้งการคลอดหากทารกยังไม่ครบกำหนด