ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคซิฟิลิสของนักเรียนเทคนิคค
คำสำคัญ:
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์, พฤติกรรมการป้องกัน, ซิฟิลิส, นักเรียนวิทยาลัยเทคนิคบทคัดย่อ
โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่เคยระบาดในอดีตและกลับมาระบาดอีกครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา การศึกษาครั้งนี้เป็น Cross - Sectional Analytical Study Design มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมการป้องกันโรคซิฟิลิสและความสัมพันธ์ด้านปัจจัยส่วนบุคคล ความฉลาดทางสุขภาพ การรับรู้เกี่ยวกับโรคซิฟิลิส และพฤติกรรมการป้องกันโรคซิฟิลิส กลุ่มตัวอย่างที่เป็นวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี ที่ศึกษาในวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง จำนวน 321คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกัน โรคซิฟิลิส ความฉลาดทางสุขภาพในการป้องกันโรคซิฟิลิส สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้ Chi-square และ Fisher’s exact test สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบ สเปียร์แมน (Spearman Rank Correlation Coefficient) ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อย 83.5 ระดับพฤติกรรมการป้องกันโรคซิฟิลิสอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรม การป้องกันโรคซิฟิลิส ได้แก่ ความฉลาดทางสุขภาพด้านความรู้เท่าทันสื่อในการป้องกันโรคซิฟิลิส การรับรู้เกี่ยวกับโรคซิฟิลิส ในด้านการรับรู้ความสามารถตนเองในการป้องกันโรคซิฟิลิส
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ความฉลาดทางสุขภาพด้านการป้องกันโรคซิฟิลิส การรับรู้เกี่ยวกับโรคซิฟิลิสมีผลทำให้เกิดพฤติกรรมการป้องกันโรคซิฟิลิสได้ สามารถนำข้อมูลใช้ในการทำโปรแกรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันโรคซิฟิลิสต่อไป
References
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2562).ซิฟิลิสกลับมาระบาด.เอกสารแจกฟรี 6 (6) ฉบับที่ 6 มิถุนายน 2562.
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2554). ความฉลาดทางสุขภาพ(1). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์นิว ธรรมดาการพิมพ์ (ประเทศไทย) จำกัด.
กิตติพงษ์ พลเสน.(2014).ปัจจัยที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับอาชีวศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ก้องกฤษฎากรณ์ ชนแดง,และคณะ.(2561).ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของเยาวชนชายในทัณฑสถานแห่งหนึ่ง.วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ.36(1),43-51.
กฤชกันทร สุวรรณพันธุ์ ,และคณะ. (2562). ปัจจัยความฉลาดทางสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงในการติดเชื้อโรคเอดส์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพศชายในจังหวัดบึงกาฬ:สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น.
ชฎารัตน์ แก้วเวียงเดช,และคณะ.(2559).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เขตอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม.วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม ,มหาวิทยาลัยนครพนม.17(3),168-177
ชนัญญา คุ้มครอง,และคณะ.(2557).ความสัมพันธ์ของความรู้เท่าทันทางด้านสุขภาพและความรู้เกี่ยวกับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสกับความต่อเนื่องสม่ำเสมอในการรับประทานยาต้านไวรัสในผู้ติดเชื้อเอชไอวี.วารสารเกื้อการุณย์.
ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์,นรีมาลย์ นีละไพจิตร.(2558).การพัฒนาเครื่องมือวัดความรู้แจ้งแตกฉานด้านสุขภาพ Health Literaty : กอง สุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มหาลัยมหิดล
จิระภา ขาพิสุทธิ์.(2561).ความฉลาดทางสุขภาพ และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร. คณะศึกษาศาสตรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม,24(1),1-12.
จุฑามาศ เบ้าคำกอง,และคณะ.(2019).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและโรค ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของนักศึกษา:กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. JOURNAL OF THE OFFICE OF DPC7 KHON KAEN, 26(1),66-76.
ชฎารัตน์ แก้วเวียงเดชและคณะ. (2016).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น เขตอำเภอเมืองจังหวัดนครพนม. Journal of The Royal Thai Army Nurses, 17(3), 168-177.
นิยม จันทร์นวล,และคณะ.(2557).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นแห่งหนึ่งใน จังหวัดอุบลราชธานี.วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี,9(2),56-65.
พรทิพย์ เข็มเงิน,และคณะ(2560).รายงานผลการดำเนินงานสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์.สำนักโรคเอดวัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
ภาวิณี มนตรี.(2557).ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางสุขภาพด้านการป้องกันโรคเอดส์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ของ ข้าราชการทหารกองพลปืนใหญ่ ค่ายพิบูลวงครามจังหวัดลพบุรี.วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(สุขศึกษา),บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รวมพร คงกำเนิด, และคณะ.(2555).การรับรู้ความรุนแรงและการรับรู้โอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นผู้หญิงไทย.สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีนครราชสีมา.
วราภรณ์ สาวิสิทธิ์. (2016).ทัศนคติเรื่องเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่1มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. วารสารโรง พยาบาล มหาสารคาม, 13(2), 47-56.
วรางคณา มั่นสกุล.(2559).การติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวี.วชิรเวชสารและวารสารเวชศาสตร์เขตเมือง.มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชกรุงเทพมหานคร,60(2),147-158
วรรณศิริ ประจันโน,รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์,และพรนภา หอมสินธุ์.(2560).ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลายตามแนวคิดการให้ข้อมูลข่าวสาร แรงจูงใจ และทักษะพฤติกรรม.วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย,29(2),39-51.
วนิดา ภูพันหงษ์และคณะ. (2016).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์.Prae-wa Kalasin Journal of Kalasin University, 3(2), 54-72.
วิชัย พิบูลย์, ธนธรณ์ อินต๊ะเสนา ,และรดา เตชะกุลวิโรจน์.(2559).ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ในระหว่างวัยรุ่นและวัยผู้ใหญตอนต้น.วารสารการพยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษา,53-57.
ศริญญา เจริญศิริ,และคณะ.(2562).ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในนักศึกษาชายของการศึกษา นอกระบบโรงเรียน.วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี,30(2),14-25.
ศิริพร จิรวัฒน์กูล,และคณะ. (2019). ความรู้เกี่ยวกับการคุมกำเนิดการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอช ไอ วี เอดส์ผลของการตั้ครรภ์ในวัยรุ่นและพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนใน17จังหวัด. Disease Control Journal, 45(1), 65-74.
เสาวคนธ์ กลักทองกรณ์,และคณะ. (2016). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยต่อความรู้และความเชื่อด้านสุขภาพ ในการป้องกันตนเองจากการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นหญิง.วรสารศูนย์การศึกษา แพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า,32(4),308.
องค์กรอนามัยโลก(2562).โรคซิฟิลิส.เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/gho/sti/sex_msm/en.
Bandura, A. Self-Efficacy: The Exercise of Control. New York: W.H. Freeman and Company,1997.
Bandura. A. Social foundations of thought andaction: A Social CognitiveTheory; New Jersey:Prentice-Hall Inc.,Englewood Cliffs, 1986.
Junnual, N., Manwong, M., Suebsamran, P., & Singto, S. (2014). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี. The Public Health Journal of Burapha University, 9(2), 56-65.
Needham, H. E., Wiemann, C. M., Tortolero, S. R. and Chacko, M. R. (2006). Health literacy, reading comprehension, and risk for sexually transmitted infections (STIs) in young women: Are they related? Journal of Adolescent Health, 38 (2), 93-111. Elsevier
Nancy, S. C. (2011). Health literacy, sexually transmitted infection (STI) knowledge and protective sexual behaviour. A dissertation presented to the Teachers College, Columbia University for the award of PhD.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา (Thai Journal of Public Health and Health Education) เป็นลิขสิทธิ์ของ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี