พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตามหลักคีโตจีนิกและความสำเร็จในการดูแลสุขภาพ ในสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊กคีโตแฟมมิลี่

ผู้แต่ง

  • สุพพัต ฉินทกานันท์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • ประทีป ติยะปัญจนิตย์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • กุลวดี วงศ์สุนันท์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • ดาวฤกษ์ เล่ห์มงคล วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • ปิยธิดา สินจตุรัส วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • สิกขวัฒน์ นักร้อง วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

คำสำคัญ:

แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, พฤติกรรม, อาหารคีโตจีนิก

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบความเชื่อด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตามหลักคีโตจีนิก ของสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊กคีโตแฟมมิลี่ ในกลุ่มตัวอย่าง 449 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นทางกูเกิลฟอร์มของสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊กคีโตแฟมมิลี่ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม พ.ศ. 2565 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิงร้อยละ 72.6 อายุ 41-50 ปี ร้อยละ 30.5 มีอาชีพรับราชการหรือรัฐวิสาหกิจร้อยละ 33.2 มีระดับการศึกษาอยู่ที่ระดับปริญญาตรีร้อยละ 53.5 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนส่วนใหญ่ สูงกว่า 30,000 บาท ร้อยละ 42.5

ผลการศึกษา พบว่าพฤติกรรมการรับรู้ประโยชน์การดูแลสุขภาพ ในเรื่องของการมีสุขภาพที่ดีขึ้นจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น มีสัดส่วนสูงสุดร้อยละ 83.5 รองลงมาเป็นเรื่องของการมีสุขภาพที่ดีจะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและความรุนแรงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ร้อยละ 75.7 และการรับรู้ความรุนแรงจากการไม่ดูแลสุขภาพในเรื่องของภาวะอ้วนเป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด ร้อยละ 69.7 ตามลำดับ โดยจากผลลัพธ์ของการดูแลสุขภาพตามหลักคีโตจีนิก พบว่ามีผู้ที่ประสบความสำเร็จ ร้อยละ 49.7 ส่วนใหญ่มาจากการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการดูแลสุขภาพตามหลักคีโตจีนิกที่ถูกต้อง ร้อยละ 66.8 และผู้ที่ล้มเหลว ร้อยละ 50.3 ส่วนใหญ่มาจากการไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการดูแลสุขภาพตามหลักคีโตจีนิกที่ถูกต้อง ร้อยละ 59.3 ดังนั้น จากผลของงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมการเลือกดูแลสุขภาพตามหลักคีโตจีนิกของสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊กคีโตแฟมมิลี่ เป็นผลมาจากการรับรู้ประโยชน์ของการดูแลสุขภาพและการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการดูแลสุขภาพตามหลักคีโตจีนิกที่ถูกต้องมีผลต่อความสัมฤทธิ์ผลในการดูแลสุขภาพมากที่สุด 

References

เฉลิมพล ตันสกุล. (2541). พฤติกรรมศาสตร์สาธารณสุข (พิมพ์ครั้งที่ 1). สำนักพิมพ์แห่งภาควิชา สุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.

ซารีฟะห์ เจ๊ะแว. (2560). ปัจจัยคัดสรรตามแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้หมวกกันนิรภัยในการป้องกันอุบัติเหตุของนักศึกษาสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต].มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ทฤษฎีความสำเร็จ (Achievement Needs (nAch). เข้าถึงได้จาก: https://www.novabizz.com/NovaAce/

Learning/Achievement_Needs.htm

ทิพวรรณ ศิริเฑียรทอง. (18 เมษายน 2562). อาหารคีโตนกับการลดน้ำหนัก (Ketogenic diet and weight loss).เข้าถึงได้จาก: https://ccpe.pharmacycouncil.org/index.php?option=article_detail&subpage=

article_detail&id=634

บัญชา มณีคำ. (2538). ความเชื่อด้านสุขภาพและพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในจังหวัดเชียงใหม่. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

บัลลังค์ ศรีโฉมงาม และ สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัย. (2561). การพัฒนาบางด้วนโมเดลในการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 ตําบลบางด้วน อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 5(2), 209-223.

บุรฉัตร จันทร์แดง เสาวลักษณ์ โกศลกิตติอัมพร และสัญญา เคณาภูมิ.(2562) ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม. วารสารวิชาการธรรมทัศน์, 19(2), 235-244.

เบญจมาศ สุขศรีเพ็ง. (6 กันยายน 2556). Health belief model. เข้าถึงได้จาก: https://www.gotoknow.org/

posts/115420(1February

ประภาเพ็ญ สุวรรณ และสวิง สุวรรณ. (2536). พฤติกรรมศาสตร์พฤติกรรมสุขภาพและสุขศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). เจ้าพระยาการพิมพ์.

เปมิกา สิทธิพุทธากุล. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดใจซื้อผลิตภัณฑ์คีโตเจนิคของกลุ่มผู้บริโภคอาหารคีโตเจนิค ในประเทศไทย. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

เมดิคอลไลน์แล็บ จำกัด. (2559). สภาวะสุขภาพและปัญหาสุขภาพของคนไทยส่วนใหญ่. เข้าถึงได้จาก: http://medicallinelab.co.th.

วรรณกร พลพิชัยและ จันทรา อุ้ยเอ้ง. (2561). แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของชาวประมงในจังหวัดตรัง. สงขลา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย.

วิชัย เอกพลากร, หทัยชนก พรรคเจริญ, วราภรณ์ เสถียรนพเก้า. (2564). รายงานการสำรวจสุขภาพ ประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย (พิมพ์ครั้งที่ 1). สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.

วิลาศิณี เกิดสมบุญ. (2564). แรงจูงใจ การรับรู้ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ และความไว้วางใจที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้ออาหารคีโต. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

สมิทธิ โชติศรีลือชา. (2019). Ketogenic diet for Thai DM Friends. เข้าถึงได้จาก: https://www.thaidiete

tics.org/wpcontent/uploads/2020/07/Ketogenic-diet-for-Thai-DM Friends.pdf

สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2554). พฤติกรรม. เข้าถึงได้จาก: https://dictionary.orst.go.th

เสาวลักษณ์ เจริญสิทธิพันธ์. (2564). การสื่อสารและกระบวนการยอมรับของผู้บริโภคอาหารตามหลักคีโตเจนิค.วารสาร มจร มนุษยศาสตร์ปริทรรศน์, 7(1), 223-238.

อรวรรยา พันธุลาภ. (2562). ทัศนคติ การรับรู้ ข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลต่อการตัดสินใจบริโภคอาหารคีโตเจนิค. เข้าถึงได้จาก : http://www.ba-abstract.ru.ac.th/AbstractPdf/2562-2-1_1584416174.pdf.

อำภรพรรณ ข้ามสาม. (2558). ความเชื่อด้านสุขภาพและพฤติกรรมการรับประทานยาของผู้ที่มีความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าขามอำเภอเมืองจังหวัดแพร่. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อุรวดี จันทร์แจ่มแสง. (2563). Ketogenic Diet อาหารคีโตจินิก. เข้าถึงได้จาก: https://thaicam.go.th/wp-content/uploads/2020/05/อาหารคีโตจินิก-Ketogenic-Diet.pdf.

Churuangsuk C. ( 2021). Low carbohydrate diets for obesity – benefits and harms. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/255604.

Irwin M. Rosenstock. (1974). Historical Origins of the Health Belief Model. Available from: https://journals.sagepub.com/doi/10.1177/109019817400200403

McClelland, D. C. (1973). Testing for competence rather than intelligence. American Psychologist , 28(1), 1-14.

Poosri, S., & Suwonnaroop, N. (2021). Choosing natural foods for weight control. The Journal of Chulabhorn Royal Academy, 3(2), 80–93.

Saraceni, J. A. (2018). The Perceived Benefits of Consuming a Ketogenic Diet. [Doctoral dissertation, D'Youville College].

Sarunya Phermsin and Rujira Duangsong. (2011). The Effects of the Application by Health Belief Model and SocialSupport to Control Blood Sugar Among Diabetes Mellitus Type 2 Patients, Ubolratana District, Khon Kaen Province. KKU Res J (GS), 3(2), 80-93. Retrieved from: https://ph02.tci thaijo.org/index.php/gskku/article/download/22945/19622&cd=2&hllm=tnknn;,l;lb;lmh&ct=clnk&gl=th

Thitirat Somboon. (2023). Eat "keto" with understanding. Lose weight and be healthy. Retrieved from https://www.chula.ac.th/highlight/67885/

Zhang A, Wang J, Wan X, Zhang J, Guo Z, Miao Y, Zhao S et al. (2022). Mediation Effect of Self-Efficacy Between Health Beliefs and Glycated Haemoglobin Levels in Elderly Patients with Type 2 Diabetes Mellitus: A Cross-Sectional Study. Patient Prefer Adherence, 16, 3015-3026. https://doi.org/10.2147/PPA.S388967

Zornick, R. M. (2020). Evaluating Psychological and Physiological Aspects of the Ketogenic Diet [Electronic thesis or dissertation, Ohio Dominican University]. OhioLINK Electronic Theses and DissertationsCenter. http://rave.ohiolink.edu/etdc/view?acc_num=oduhonors

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-04-25