การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชน โดยโดยให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม

ผู้แต่ง

  • ปฐวี สาระติ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • พัดชา หิรัญวัฒนกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • จารุวรรณ วิโรจน์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

คำสำคัญ:

รูปแบบ, วัณโรค, การดูแลผู้ป่วยในชุมชน, ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชน โดยให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชนในเขต อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ประกอบไปด้วย ผู้ป่วยวัณโรค ผู้ดูแลผู้ป่วยวัณโรค ทีมสหวิชาชีพ และเครือข่ายสุขภาพในชุมชน จำนวน 56 คน กระบวนการพัฒนาโดยใช้รูปแบบ PAOR จำนวน 1 วงรอบ เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถาม ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสนทนากลุ่ม การสัมภาษณ์เชิงลึก และแบบสังเกตการมีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ สถิติ Wilcoxon signed rank test การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษา พบว่าผู้ป่วยวัณโรคส่วนใหญ่มีปัญหาในการดูแลสุขภาพตนเอง คือการขาดนัดรับยา และทานยาไม่ต่อเนื่อง หน่วยบริการมีการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยไม่ครอบคลุม และขาดการกำกับติดตามการทานยาของผู้ป่วย การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชนโดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ประเมินและวิเคราะห์ปัญหาของการดูแลผู้ป่วยโรควัณโรคของหน่วยบริการและชุมชน 2) พัฒนากลไกการดำเนินงาน การทบทวนแนวปฏิบัติ การพัฒนาสมรรถนะผู้ป่วยผู้ดูแลและทีมชุมชน 3) สนับสนุนการปฏิบัติตัวและติดตามการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย โดยเน้นการจัดกิจกรรมที่ต่อเนื่องในชุมชน และ 4) สรุปผลการดำเนินงานและสะท้อนผลสำเร็จปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน รูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชนโดยให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางครั้งนี้ เน้นการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยที่บ้าน ติดตามการทานยาอย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษา โดยความร่วมมือระหว่างผู้ดูแลผู้ป่วย อสม.พี่เลี้ยง เครือข่ายชุมชน และสหวิชาชีพ ที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนทั้งปัจจัยด้านบุคคล สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม ดูแลให้คำปรึกษาที่ถูกต้องอย่างเหมาะสมแก่ผู้ป่วยและครอบครัว ผลการพัฒนาพบว่าภายหลังการพัฒนากลุ่มตัวอย่างมีความรู้เรื่องวัณโรคและการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อสูงขึ้นมากกว่าก่อนได้รับโปรแกรม 2.34 คะแนน (Z=-5.027, p-value<.001) ความพึงพอใจของผู้ดูแลและผู้มีส่วนร่วมระดับสูง ร้อยละ 93.33 และร้อยละ 88.46 ตามลำดับ ผู้ป่วยโรควัณโรคมีอัตราความสำเร็จหลังการรักษา 6 เดือน ร้อยละ 93.33 ผลการศึกษาสามารถนำรูปแบบไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชนที่มีบริบทใกล้เคียงกัน และสามารถประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังเรื้อรังที่ต้องได้รับการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย 2564. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย 2564. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2566). แผนปฏิบัติการระดับชาติ ด้านการต่อต้านวัณโรค ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566- 2570). กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.

กระทรวงสาธารณสุข. (2566). โปรแกรมบริการจัดการผู้ป่วยวัณโรคแห่งชาติ (National Tuberculosis Information Program). สืบค้นจาก https://ntip-ddc.moph.go.th/uiform/Login.aspx

จิราภรณ์ ชูวงศ์, จิณัฐตา ศุภศรี และดวงใจ สวัสดี. (2562). ความท้าทายในการกำกับกินยาแบบมีพี่เลี้ยงของผู้ป่วยวัณโรค ในชุมชน. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(3), 165-174.

ดาวประกาย หญ้างาม. (2565). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคปอดในชุมชน โดยเครือข่ายสุขภาพ อำเภอ ธาตุพนม จังหวัดนครพนม [ปริญญานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

โรงพยาบาลนาทม. (2566). สรุปรายงานผลการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมวัณโรคอำเภอนาทม พ.ศ.2566.

พงศ์เทพ ธีระวิทย์. (2560). วัณโรคปอด (Pulmonary tuberculosis). หน่วยโรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัด วิกฤติ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. สืบค้นจาก https://www.rama.mahidol.ac.th/med/sites/default/files/public/pdf/medicinebook1/TB.pdf

วัฒนา สว่างศรี. (2562). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วารสาร โรงพยาบาลมหาสารคาม, 16(3), 116-129.

อุไร โชควรกุล. (2566). การพัฒนารูปแบบการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 20(1), 42-55.

Best, J.W. (1977). Research in Education. (3rd ed.) Englewood Cliffs. New Jersey: Prentice Hall.

Bloom, S. J. (1956). Taxonomy of education objective, hand book1: cognitive domain. New York: David Mckay.

Getahun, B., & Nkosi, Z.Z. (2017). Is directly observed tuberculosis treatment strategy patient-centered A mixed method study in Addis Ababa, Ethiopia. plos one 12(8), e0181205.

Kemmis, S., & McTaggart, R. (1998). The action research planner. Deakin University.

Kemmis, S., & McTaggart, R. (2005). Participatory action research. In N. Denzin & Y. Lincoln (Eds.), Handbook of qualitative research (2nd ed., pp. 567-605). Sage Publications

World Health organization. (2023). Global Tuberculosis Report 2023. Retrieved from https://www.who.int/teams/global-tuberculosis-programme/tb-reports/global-tuberculosis-report-2023

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-29

รูปแบบการอ้างอิง

สาระติ ป. ., หิรัญวัฒนกุล พ. ., & วิโรจน์ จ. . (2025). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชน โดยโดยให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา, 5(1), e271501. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjphe/article/view/271501

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย