ผลของการสอนด้วยสื่อดิจิทัลร่วมกับการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ต่อความรู้ ทักษะการล้างโพรงจมูก และอาการทางจมูกของผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ

ผู้แต่ง

  • อุบล พงศ์วุฒิศักดิ์ โรงพยาบาลแพร่
  • พรนิภา แก้ววิจิตร โรงพยาบาลแพร่
  • อัมภาพันธ์ คำดวงกาศ โรงพยาบาลแพร่
  • ทิพวรรณ เทียมแสน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี แพร่ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • สุทธิศักดิ์ สุริรักษ์ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบุรี คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

สื่อดิจิทัล, สื่อสังคมออนไลน์, การล้างโพรงจมูก, โรคไซนัสอักเสบ

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่ม มีการทดสอบก่อนและหลังการทดลองครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของการสอนด้วยสื่อดิจิทัลร่วมกับการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ต่อความรู้ ทักษะการล้างโพรงจมูก และอาการทางจมูกของผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ ที่มารับบริการที่ห้องตรวจ หู คอ จมูก แผนกผู้ป่วยนอก จำนวน 42 ราย คัดเลือกโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย และแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 21 คน กลุ่มทดลองได้รับการสอนเรื่องโรคไซนัสอักเสบและวิธีการล้างจมูกด้วยสื่อดิจิทัลร่วมกับการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่กลุ่มเปรียบเทียบได้รับการสอนด้วยวิธีปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่  แบบประเมินความรู้เรื่องโรคไซนัสอักเสบ วิธีการล้างโพรงจมูกด้วยตนเอง แบบประเมินทักษะการล้างโพรงจมูกด้วยตนเอง และแบบบันทึกอาการทางจมูกที่มีค่า ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา มีค่า CVI เท่ากับ 1.00 ทุกฉบับ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Chi-square test, Wilcoxon sign-ranks test, Mann-Whitney U test และ McNemar Test

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนความรู้เรื่องโรคไซนัสอักเสบ วิธีการล้างโพรงจมูกด้วยตนเอง ทักษะการล้างโพรงจมูกด้วยตนเอง สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p-value<.05 และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p-value<.05  รวมทั้งมีอาการทางจมูกลดลงมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ สรุปได้ว่า การสอนด้วยสื่อดิจิทัลร่วมกับการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นวิธีการที่มีประสิทธิผลในการส่งเสริมความรู้และพัฒนาทักษะการล้างโพรงจมูกด้วยตนเอง และลดอาการทางจมูกของผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบได้ดีกว่าวิธีสอนปกติ จึงควรไปประยุกต์ใช้ในการให้คำแนะนำและส่งเสริมการดูแลตนเองแก่ผู้ป่วยโรคไซนัส รวมถึงขยายผลสู่การปรับใช้กับผู้ป่วยในแผนกอื่นๆต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

คณะแพทยศาสาตรโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. (2567). ไซนัสอักเสบรู้ได้อย่างไร. สืบค้นจาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article

คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล. (2566). เมื่อเป็นไซนัสอักเสบ. สืบค้นจาก https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=14

งานเวชระเบียน โรงพยาบาลแพร่. (2565). สถิติผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ. โรงพยาบาลแพร่

นงนุช วัชรจิตบวร, พรรณิภา ทัศนยิ้ม และจัญญาพร สาโสภา. (2566). ผลของการใช้โปรแกรมการสอนล้างโพรงจมูก

ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ต่อทักษะการล้างโพรงจมูกด้วยตนเองและอาการทางจมูกในผู้ป่วยโรคโพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ. เอกสารประกอบการนำเสนอผลงาน. การประชุมวิชาการสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 ปีงบประมาณ 2566.

พฤกษา เกษมสารคุณ, บงกชกร หงส์สาม และกันตพิชญ์ ศักดิ์สวัสดิ์. (2563). การใช้สื่อดิจิทัลเพื่อส่งเสริมสุขภาพ. มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์, 37(3), 162-181.

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2567). เอกสารสอนชุดวิชา หน่วยที่ 1-5 การพยาบาลผู้ใหญ่ (พิมพ์ครั้งที่ 2). นนทบุรี. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์. (2561). ล้างจมูกให้ถูกวิธีง่ายนิดเดียว. สืบค้นจาก: https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/500

วรรัตน์ มากเทพพงษ์, อุไร นิโรธนันท์ และ นปภัช ทองคำวงศ์. (2566). ผลของโปรแกรมพหุองค์ประกอบแบบบูรณาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่อความรู้ พฤติกรรมการดูแลตนเอง และระดับความดันโลหิตของผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 39(1), 78-88.

ศรีสุนทรา เจิมวรพิพัฒน์. (2566). การพยาบาลหู คอ จมูก. (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ. ธนาเพลส จำกัด.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). 10 ข้อดีการเรียนรู้ด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ E-Learning. สืบค้นจาก: https://info.contentcenter.obec.go.th

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2564). ยุทธศาสตร์สุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข (2564-2568). สืบค้นจากhttps://ict.moph.go.th/upload_file/files/97c2287c8f04e-13f81fec13e431e7a5e.pdf

อายุพร ประสิทธิเวชชากูร และ ขจรเกียรติ ประสิทธิเวชชากูร. (2566). สื่อแอนิเมชันเพื่อการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือที่มีประสิทธิภาพ. วารสารแพทย์นาวี, 50(2), 466-478.

อติพร สำราญบัว และ เบญจมาศ ทำเจริญตระกูล. (2564). ผลของการใช้แอปพลิเคชันอาหารลดความดันต่อความเชื่อด้านสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก, 32(1), 228-242.

Bloom, B.S. (1975). Taxonomy of Education. New York: David McKay Company Inc.

Dykewicz, M.S., Wallace, D.V., Amrol, D.J., Baroody, F.M., Bernstein, J.A., Craig, TJ., et al. (2020). Rhinitis 2020: A practice parameter update. Journal of Allergy and Clinical Immunology, 146(4), 721-767.

Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G. & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A Flexible Statistical Power Analysis Program for the Social, Behavioral, and Biomedical Sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175-191.

Knowles, M.S. (1970). The Modern Practice of Adult Education. Retrieved from https://www.umsl.edu/~henschkej/articles/knowles_1970_the_modern_practice_of_adult_education_pgs_1_77.pdf

Orem DE. (2001). Nursing cocepts of practice. 6th ed. St. Louis: Mosby.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-28

รูปแบบการอ้างอิง

พงศ์วุฒิศักดิ์ อ. ., แก้ววิจิตร พ., คำดวงกาศ อ. . ., เทียมแสน ท. ., & สุริรักษ์ ส. . (2025). ผลของการสอนด้วยสื่อดิจิทัลร่วมกับการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ต่อความรู้ ทักษะการล้างโพรงจมูก และอาการทางจมูกของผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา, 5(2), e272231. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjphe/article/view/272231

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย