การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมระดับสติปัญญาของเด็กปฐมวัย จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • ธีระพงษ์ แก้วภมร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
  • ชัยสิทธิ์ เรืองโรจน์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
  • รุ่งรัตน์ พละไกร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี

คำสำคัญ:

ระดับสติปัญญา, การส่งเสริมสุขภาพ, เด็กปฐมวัย, ความฉลาดทางอารมณ์

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ พัฒนารูปแบบ และประเมินการส่งเสริมระดับสติปัญญาของเด็กปฐมวัยจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีกระบวนการ 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การวิเคราะห์สถานการณ์ระดับสติปัญญาเด็กปฐมวัย เด็กอนุบาล 2 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน จังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 497 คน ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมระดับสติปัญญาเด็กปฐมวัย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กปฐมวัยจำนวน 30 คน ระยะที่ 3 การนำทดลองใช้รูปแบบ และประเมินผล ทุกอำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี และระยะที่ 4 การปรับปรุงรูปแบบฯ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กปฐมวัยจำนวน 30 คน เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินระดับสติปัญญาเด็ก 2-7 ปี และความฉลาดทางอารมณ์เด็กอายุ 3-5 ปี (ฉบับย่อ) สำหรับครู/ผู้ดูแลเด็ก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติ paired t-test ส่วนข้อมูล เชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และบริบท
ผลการวิจัย ระยะที่ 1 พบว่า เด็กอนุบาล 2 มีระดับสติปัญญาเฉลี่ย 97.9 (S.D.=16.3) โดยมีระดับสติปัญญาอยู่ในระดับปานกลาง (90-109) มากที่สุดร้อยละ 44.9 รองลงมาคือ ระดับสติปัญญาทึบ (80-89) ร้อยละ 18.5 และระดับสติปัญญาสูงกว่าเกณฑ์ (110-119) ร้อยละ 15.1 ตามลำดับ สำหรับด้านความฉลาดทางอารมณ์ 3 ด้าน (ดี-เก่ง-สุข) ก่อนดำเนินการพัฒนาเท่ากับ 35.4 (S.D.=2.2) ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมระดับสติปัญญา พบว่า รูปแบบการส่งเสริมศักยภาพเด็กปฐมวัยควรได้รับการร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ทักษะชีวิต และพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพเด็กปฐมวัย เมื่อดำเนินการตามรูปแบบการพัฒนาและประเมินผล ในระยะที่ 3 การนำรูปแบบไปใช้และประเมินผล พบว่า ระดับสติปัญญาเฉลี่ย 101.4 (S.D.=13.4) ค่าเฉลี่ยความฉลาดทางอารมณ์หลังดำเนินการพัฒนาเท่ากับ 45.1 (S.D.=2.1) เมื่อเปรียบเทียบระดับสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<.05) และระยะที่ 4 ปรับปรุงรูปแบบการส่งเสริมระดับสติปัญญา โดยมีภาคีเครือข่ายหน่วยงานช่วยสนับสนุน อาทิ ศูนย์อนามัยที่ 10 ศูนย์สุขภาพจิตเขต 10 ชมรมผู้สูงอายุ และสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมศักยภาพเด็กปฐมวัยอย่างเหมาะสมต่อไป

Downloads

References

จันท์พิมพ์ สารากร, จุฑามาศ โชติบาง และมาลี เอื้ออำนวย. (2563). ความรู้และการปฎิบัติของผู้ดูแลหลักเพื่อการส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก. พยาบาลสาร, 47(2), 1-11

ณิชวรรณ จงรักษ์ธนกิจ, มธุรดา สุวรรณโพธิ์, จันทร์อาภา สุขทัพภ์, ประเสริฐ จุฑา และรัชดาวรรณ์ แดงสุข. (2565). ระดับสติปัญญานักเรียนไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1: การสำรวจระดับชาติ พ.ศ. 2564. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 31(1), 1-11.

นริศรา ตรียันต์. (2562). ความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาโรงเรียนชูสินทองประดิษฐ์อนุสรณ์ สำนักงานเขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร. ศิลปะการจัดการ, (3)1, 43-52.

บัณฑิต ศรไพศาล และปราณี ชาญณรงค์. (2552). การศึกษาทบทวนองค์ความรู้ด้านทฤษฎีและเครื่องมือประเมินระดับสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ (IQ และ EQ) เด็ก (A review of theoretical knowledge and a tool to assess intelligence and emotional intelligence (IQ and EQ) levels in children). ปทุมธานี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ปราณี ชาญณรงค์ และบัณฑิต ศรไพศาล. (2553). รายงานวิจัยการพัฒนาเครื่องมือวิจัยเชิงสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาเด็กไทย (The development of a survey research instrument for Intelligence Quotients (IQ) test of Thai children). ปทุมธานี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ผดุงศักดิ์ ศรีวาส และเลิศชัย เจริญธัญรักษ์. (2561). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระดับสติปัญญาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 11(3), 14-21.

จันทร์อาภา สุขทัพภ์. (2564). เดินหน้าสร้างเด็กไทย ไอคิวดี : การสำรวจสถานการระดับสติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เด็กไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประจำปี 2564. สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

อรุณี หรดาล (2563). สอนอย่างไรให้เด็กปฐมวัยคิดเป็น. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 10(2), 211-228.

Best, J. W., & Kahn, J. V. (1997). Research in Education. (7th ed). Boston: Allyn and Bacon.

Blom, G., & Blom, G. (1989). The Normal Distribution. New York: Springer.

Gardner, H. (1993). Frames of mind: The theory of multiple intelligences.

García, J. L., & Heckman, J. J. (2021). Early childhood education and life-cycle health. Health economics, 30 Suppl 1(Suppl 1), 119-141. https://doi.org/10.1002/hec.4148

Greenfield, P. M., & Bruner, J. S. (1996). Culture and Cognitive Growth. International Journal of Psychology, 1(2), 89-107. https://doi.org/10.1080/00207596608247117

Krejcie, R.V., & Morgan, D. W. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.

Sternberg, R. J. (1999). The Theory of Successful Intelligence. Review of General Psychology, 3(4), 292-316. https://doi.org/10.1037/1089-2680.3.4.292

Lynn, R., & Vanhanen, T. (2002). IQ and the Wealth of Nations. Westport, CT: Praeger. Retrieved from http://dx.doi.org/10.5040/9798400672408

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-03-09

How to Cite

แก้วภมร ธ. . ., เรืองโรจน์ ช., & พละไกร ร. (2025). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมระดับสติปัญญาของเด็กปฐมวัย จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา, 5(1), e272608 . สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjphe/article/view/272608