ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการป้องกัน, ภาวะแทรกซ้อนทางไต, ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 381 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามแรงจูงใจในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตและพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2567 ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาระหว่าง 0.67-1.00 และมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.75 และ 0.76 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่าแรงจูงใจในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตอยู่ในระดับสูงและพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อยู่ในระดับสูง ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้แก่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับรู้อุปสรรคของการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไต การสูบบุหรี่ และการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามลำดับ ซึ่งตัวแปรเหล่านี้ร่วมพยากรณ์พฤติกรรมป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ร้อยละ 18.2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถนําไปใช้ออกแบบโครงการหรือกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และการจัดทำสื่อสุขศึกษาหรือกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. (2566). กรมควบคุมโรค รณรงค์วันเบาหวานโลก 2566 มุ่งเน้นให้ความรู้ประชาชนถึงความเสี่ยงโรคเบาหวาน และหากตรวจพบก่อนจะลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้. สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th
ขวัญเรือน แก่นของ, ศิริรัตน์ อนุตระกูลชัย, สุณี เลิศสินอุดม และอัมพรพรรณ ธีรานุตร. (2562). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพต่อพฤติกรรมการปฏิบัติตัวเพื่อชะลอการเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 1-3a. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 37(3), 211-220.
ณัฐณิชา สอื้นรัมย์, จุฑาธิป ศีลบุตร, ชูเกียรติ วิวัฒน์วงศ์เกษม และปรารถนา สถิตย์วิภาวี. (2567). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะแทรกซ้อนทางไตในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 16(4), 159-170.
นิภาดา วรโพธิ์. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานในอำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
นิสิต ยิ้มนรินทร์. (2565). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย. วารสารสาธารณสุขมูลฐานภาคเหนือ, 32(3), 9-23.
พงศธร เหลือหลาย และยุทธนา แยบคาย. (2564). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลศรีนคร จังหวัดสุโขทัย. วารสารสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 3(2), 61-74.
มนศภรณ์ สมหมาย, ชนัญญา จิระพรกุล และเนาวรัตน์ มณีนิล. (2564). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลสะสมไม่ได้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เป็นผู้สูงอายุ จังหวัดยโสธร: การศึกษาแบบจับคู่ย้อนหลัง. วารสารควบคุมโรค, 47(2), 289–299. https://doi.org/10.14456/dcj.2021.26
โรงพยาบาลท่าตะโก. (2566). ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (Health Data Center: HDC). สืบค้นจาก https://nsn.hdc.moph.go.th/hdc/main/index.php
วิชัย เอกพลากร. (2564). รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563. กรุงเทพมหานคร: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์. (2567). แผนยุทธศาสตร์สุขภาพจังหวัดนครสวรรค์ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ฉบับปรับปรุงเมษายน 2567. นครสวรรค์: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์.
สาคร นันทโกวัฒน์ และนิลภา จิระรัตนวรรณะ. (2568). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางอ้อ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 10(1), 575–586.
American Diabetes Association. (2019). 11. Microvascular complications and foot care: Standards of medical care in diabetes-2019. Diabetes Care, 42(Suppl. 1), S124–S138. https://doi.org/10.2337/dc19-S011
Best, J. W. (1977). Research in education (3rd ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Browne, R. H. (1995). On the use of a pilot sample for sample size determination. Statistics in Medicine, 14(17), 1933–1940.
Floyd, D. L., Prentice-Dunn, S., & Rogers, R. W. (2000). A meta-analysis of research on protection motivation theory. Journal of Applied Social Psychology, 30(2), 407–429. https://doi.org/10.1111/j.1559-1816.2000.tb02323.x
International Diabetes Federation. (2021). IDF Diabetes Atlas (10th ed.). Brussels, Belgium: International Diabetes Federation. Retrieved from https://diabetesatlas.org/atlas/tenth-edition/
López, D. S., Hernández Vargas, J. A., Urina-Jassir, M., Urina-Triana, M., & Franco, O. H. (2023). Reducing the gap of chronic kidney disease in low- and middle-income countries: What is missing? Lancet Regional Health-Americas, 28, 100625. https://doi.org/10.1016/j.lana.2023.100625
Sundararajan, V., Kumar, A., & Mehta, R. (2022). Alcohol use and kidney function decline in patients with type 2 diabetes: A longitudinal cohort study. Diabetes Research and Clinical Practice, 186, 109841.
Wayne, W. D. (1995). Biostatistics: A foundation for analysis in the health sciences (6th ed). New York, NY: John Wiley & Sons.
World Health Organization. (2023). Diabetes. Retrieved from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/diabetes
Xie, Y., Bowe, B., Mokdad, A. H., Xian, H., Yan, Y., Li, T., et al. (2018). Analysis of the Global Burden of Disease study highlights the global, regional, and national trends of chronic kidney disease epidemiology from 1990 to 2016. Kidney International, 94(3), 567-581. https://doi.org/10.1016/j.kint.2018.04.011
Xu, W., Zhou, Y., Jiang, Q., Fang, Y., & Yang, Q. (2024). Risk prediction models for diabetic nephropathy among type 2 diabetes patients in China: A systematic review and meta-analysis. Frontiers in Endocrinology, 15, 1407348. https://doi.org/10.3389/fendo.2024.1407348
Zhang, Z. C., Wang, X. W., Li, S. B., Liu, Y. Q., Li, Y. M., & Jia, H. H. (2025). Barriers and facilitators of complications risk perception among rural patients with type 2 diabetes mellitus: A qualitative content analysis. BMC Public Health, 25, 1110. https://doi.org/10.1186/s12889-025-22299-x
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา (Thai Journal of Public Health and Health Education) เป็นลิขสิทธิ์ของ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี








