ผลของโปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพในเด็ก 0-5 ปี ในคลินิกสุขภาพเด็กดี โรงพยาบาลบ้านด่าน
คำสำคัญ:
โปรแกรมการดูแลดูแลทันตสุขภาพ, เด็ก 0-5 ปี, ค่าเฉลี่ยฟันผุอุดถอนบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพในเด็ก 0-5 ปี ในคลินิกสุขภาพเด็กดี โรงพยาบาลบ้านด่าน และมีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อเปรียบเทียบความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กของผู้ปกครอง พฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปาก ระหว่างกลุ่มทดลอง และกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มตัวอย่างคือเด็ก 0-5 ปี และผู้ปกครอง ในคลินิกสุขภาพเด็กดี โรงพยาบาลบ้านด่าน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบวิธีการสุ่มตัวอย่างเข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบตามเกณฑ์คัดเข้า แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพประยุกต์มาจากทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา และทฤษฎีการรับรู้ความสามารถตนเอง ดำเนินการศึกษาระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 ถึง 31 สิงหาคม 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ปกครองและเด็ก แบบวัดความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปาก แบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปาก แบบตรวจสภาวะฟันผุ และโปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพ ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างข้อคําถามกับวัตถุประสงค์ทุกข้อมีค่าระหว่าง 0.66 ถึง 1.00 และตรวจสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถามด้วยค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ด้านความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปาก และด้านพฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปาก เท่ากับ 0.72, 0.71 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานได้แก่ สถิติ Chi -square test และ Independent t-test กําหนดนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ คือ มารดา ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เกษตรกรรมและพนักงานประจำ มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. และเด็ก 0-5 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย, และส่วนใหญ่ดื่มนมจากกล่อง/นมยูเอสที คะแนนเฉลี่ยความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากของกลุ่มได้รับโปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพสูงกว่ากลุ่มไม่ได้รับโปรแกรมการดูแลทันตสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.000) เมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปากของกลุ่มที่ได้โปรแกรมทันตสุขภาพสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมทันตสุขภาพ ไม่แตกต่างทางสถิติ (p=0.176) ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถนําไปใช้เป็นแนวทางการในการดำเนินงานและปรับปรุง เพื่อส่งเสริมและป้องกันการดูแลทันตสุขภาพในเด็ก 0-5 ปี ต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กิติศักดิ์ วาทโยธา และศิวิไลซ์ วนรัตน์วิจิตร. (2562). ประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพช่องปากต่อพฤติกรรม
การดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียนอายุ 12 ปี เขตพื้นที่อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร. เชียงใหม่ทันตแพทย์วารสาร, 40(1), 81-96.
ธนาวุฒิ ขอสุข, สุรศักดิ์ เทียบฤทธิ์และสุมัทนา กลางคาร (2565). ประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมทันตสุขภาพโดยแรง
สนับสนุนทางสังคมและตัวแบบทดีต่อการป้องกันโรคฟันผุของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย. วารสาร
วิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 11(1), 53-62
นิตยา คำมอญ. (2561). การให้ความหมายฟันน้ำนมและการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็ก 1-3 ปี:ทัศนะของครอบครัวที่
หลากหลายวิถีชีวิตในตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ [วิทยานิพนธ์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตร มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พิไลวรรณ พิชัยรัตนวงศ์. (2566). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อการปฏิบัติของครอบครัวในการ
ดูแลสุขภาพฟันของเด็กวัยก่อนเรียน [วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภัทรพล มากมี และฉัตรนภา จบศรี. (2566). ความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก
ก่อนวัยเรียนของผู้ปกครอง อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ [วิทยานิพนธ์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ภัทราภรณ์ หัสดิเสวี, จารินี ภาษิตตานนท์, กาญจนา ขําาจันทร์ และศิวพร บุบผาหอม (2566). โปรแกรมสร้างเสริม
สุขภาพช่องปากเด็กอายุ 0-2 ปี: Oral Health Promotion Program in 0-2 years Old Children สืบค้นจาก
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15446/12525
โศภิดา บุญมี. (2565). การจัดกิจกรรมทันตสุขศึกษาโดยประยุกต์ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเองร่วมกับแรง
สนับสนุนทางสังคมที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 3 อำเภอพนัส
นิคม จังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 31(6), 1019-1028.
สุกัญญา ฆารสินธุ์, กฤชกันทร สุวรรณพันธุ์ และสายฝน จันทร์หอม.(2564) ประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมทักษะการ
แปรงฟันในเด็กวัยก่อนเรียน. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 15(38), 105-718
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์. (2023). Health Data Centerฺ Buriram.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. (2566). รายงานผลการสํารวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ประเทศไทย
พ.ศ. 2566 (1). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
American Academy of Pediatric Dentistry. (2021). Policy on Early Childhood Caries (ECC):
Consequences and Preventive Strategies. Retrieved from: https://www.aapd.org/globalassets/media/policies_guidelines
Bloom, Benjamin S (1971). Hand book on formative and summative evaluation of student learning.
New York: McGraw–Hill.
Likert R. (1967). The human organization: Its management and values. New York: McGraw-Hill, Inc.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา (Thai Journal of Public Health and Health Education) เป็นลิขสิทธิ์ของ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี








