การศึกษาปัจจัยทำนายและทักษะด้านการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย ในเขตสุขภาพที่ 7
คำสำคัญ:
ทักษะด้านการคิดเชิงบริหาร, เด็กปฐมวัย, รูปแบบการเลี้ยงดู, นมแม่, ความสัมพันธ์กับเด็กบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาระดับทักษะด้านการคิดเชิงบริหาร (Executive Function; EF) และวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงทำนายระหว่างปัจจัยด้านเด็กและด้านครอบครัวกับทักษะ EF ของเด็กปฐมวัยในเขตสุขภาพที่ 7
รูปแบบและวิธีวิจัย : เป็นการศึกษาเชิงสหสัมพันธ์เชิงทำนาย (Predictive Correlational Research Design) ดำเนินการในรูปแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional Study) กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปฐมวัย จำนวน 198 คน อายุระหว่าง 3 ถึง 5 ปี ซึ่งคัดเลือกด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) จากศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยและสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 ระหว่างเดือนธันวาคม 2562 ถึงเดือนพฤษภาคม 2563 เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินทักษะ EF (MU.EF-101) ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยมหิดล และแบบสอบถามลักษณะประชากร วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สหสัมพันธ์สเปียร์แมน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณด้วยตัวแปรดัมมี่ โดยแปลผลคะแนน EF ตามค่ามาตรฐานที (T-score)
ผลการศึกษา : กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 53.00 มีน้ำหนักแรกเกิดเฉลี่ย 3,120 กรัม ได้รับนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และอาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงต่ำ ซึ่งผลการประเมินทักษะ EF ของเด็กปฐมวัยโดยรวมอยู่ในระดับดี (สูงกว่าค่าเฉลี่ย) (ค่าเฉลี่ย T-score=59.30, SD=7.73) ทั้งในด้านการยับยั้งทั้งในด้านการยับยั้งพฤติกรรม การควบคุมอารมณ์ ความจำขณะทำงานและการยืดหยุ่นทางความคิดโดยมีปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับ EF อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ เพศหญิง น้ำหนักแรกเกิดตามเกณฑ์ การได้รับธาตุเหล็ก การกินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกอายุผู้เลี้ยงดู รายได้ครอบครัว ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างผู้เลี้ยงกับเด็ก และรูปแบบการเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ ซึ่งปัจจัยทั้ง 8 นี้สามารถร่วมกันทำนายระดับ EF ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R²=0.724, p<0.001)
สรุปผลการศึกษา : ทักษะ EF ของเด็กปฐมวัยได้รับอิทธิพลจากทั้งปัจจัยส่วนบุคคลและบริบทของครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบการเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ ซึ่งเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลเชิงทำนายมากที่สุด ดังนั้น การส่งเสริม EF อย่างมีประสิทธิภาพจึงควรเน้นที่การดูแลและปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสมภายในครอบครัว อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเด็กให้มีศักยภาพที่เหมาะสมกับสังคมแห่งอนาคต
เอกสารอ้างอิง
Center on the Developing Child, Harvard University. Executive function & self-regulation [Internet]. Cambridge: Harvard University; 2023 [cited 2025 Jul 17]. Available from: https://developingchild.harvard.edu
Diamond A. Executive functions: insights into development and individual differences. Dev Psychol. 2022;58(4):585–603.
Moffitt TE, Arseneault L, Belsky D, et al. A gradient of childhood self-control predicts health, wealth, and public safety. ProcNatlAcadSci U S A. 2011;108(7):2693-8.
Blair C, Raver CC. Individual development and EF: Findings and implications for education. Annu Rev Psychol. 2021;72:321–349.
Georgieff MK, Brunette KE, Tran PV. Early life nutrition and neural development: Iron's role in the brain. Adv Nutr. 2020;11(3):610–618.
Lauritzen L, Brambilla P, Mazzocchi A, et al. Breastfeeding and child cognitive outcomes: A systematic review. Nutrients. 2021;13(4):1341.
Pungello EP, Iruka IU, Troller-Renfree S. Caregiver–child interaction and EF development in early childhood. Early Child Res Q. 2022;61:118–130.
UNICEF. Early childhood development [Internet]. New York: United Nations Children’s Fund; 2023 [cited 2022 Jun 2]. Available from: https://www.unicef.org/early- childhood-development.
World Health Organization. Nurturing care for early childhood development: A framework. Geneva: WHO; 2018.
กระทรวงสาธารณสุข. รายงานการประเมินระดับสติปัญญาเด็กไทย ปี 2559. กรุงเทพฯ: สำนักส่งเสริมสุขภาพ; 2560.
สำนักส่งเสริมสุขภาพ. รายงานเฝ้าระวังพัฒนาการเด็กปฐมวัยด้วยคู่มือ DSPM เขตสุขภาพที่ 7 ปี 2562. นนทบุรี: กรมอนามัย; 2563.
ศูนย์คุณธรรม. แนวคิดการพัฒนาเยาวชนไทยสู่พลเมืองโลก. กรุงเทพฯ: สกสค.; 2564.
กรมอนามัย. รายงานผลการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ปีงบประมาณ 2564. นนทบุรี: สำนักพัฒนาอนามัยเด็กและวัยรุ่น กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข; 2564.
Bandura A. Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Englewood Cliffs: Prentice-Hall; 1986.
Krejcie RV, Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educ Psychol Meas. 1970;30(3):607-10.
นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล, ปนัดดา ธนเศรษฐกร และอรพินท์ เลิศอาวัสดาตระกูล. การพัฒนาและหาค่า เกณฑ์มาตรฐานเครื่องมือประเมินการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย. ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล และสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล; 2560.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ:สุวีริยาสาส์น;2560.
Thomason ME, Dennis EL, Gotlib IH. Gender differences in brain maturation and EF trajectories in early childhood. Dev Cogn Neurosci. 2021;47:100879.
Georgieff MK, Brunette KE, Tran PV. Early life nutrition and neural development: Iron's role in the brain. Adv Nutr. 2020;11(3):610–618.
ดวงกมล ผิวบัวคำ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับทักษะด้านการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย. วารสารพัฒนาการมนุษย์และสังคม. 2560;9(1):15–30.
ศิริพร โสภา, วารุณี รุ่งเรืองศรี, นลินรัตน์ ภู่วิจิตร. ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเลี้ยงดูและพัฒนาการการคิดเชิงบริหารของเด็กวัยอนุบาล. วารสารพัฒนาการมนุษย์และสังคม. 2565;14(1):45–60.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารนี้เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลมหาสารคาม