การพัฒนากระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูงรูปแบบอุดร7 ขั้นตอน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดอุดรธานี
คำสำคัญ:
คำสำคัญ กระบวนการดูแล หญิงตั้งครรภ์เสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล, Keywords: High risk pregnancy, care process, Tambon health promoting hospitalบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพัฒนากระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่เสี่ยงสูง รูปแบบอุดร 7 ขั้นตอน และศึกษาประสิทธิผลการพัฒนากระบวนการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดอุดรธานี High Risk pregnancy Udon Model 7 step เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มี 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา ระยะที่ 2 พัฒนากระบวนการ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การลงมือปฏิบัติ การสังเกตและการสะท้อนผลการปฏิบัติ การพัฒนากระบวนการครั้งนี้ มี 2 วงรอบ คือรอบที่ 1 การพัฒนากระบวนการดูแลแม่ครรภ์เสี่ยงสูง รูปแบบอุดร 7 ขั้นตอน วงรอบที่ 2 พัฒนากระบวนการดูแลและรับ-ส่งต่อหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูงร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่าย จังหวัดอุดรธานี ระยะที่ 3 ประเมินผล กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 1)คณะกรรมการแม่และเด็กระดับอำเภอ 50 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง 2)พยาบาลวิชาชีพ และบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานฝากครรภ์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 200 คน 3)หญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการคลินิกฝากครรภ์ 95 คน ใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบสนทนากลุ่ม แบบสอบถามความรู้ความสามารถก่อนและหลังการพัฒนา และแบบประเมินความพึงพอใจหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการคลินิกฝากครรภ์ เก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Methodology) ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยใช้ข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิและทุติยภูมิ ระหว่างเดือนพฤษภาคม2563 - พฤษภาคม 2564 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ด้วยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าต่ำสุดค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้สถิติอ้างอิงในการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนน ความรู้ความสามารถก่อนและหลังการพัฒนาโดยใช้ Paired t-test วิเคราะห์ค่าความเที่ยงโดยใช้วิธีสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของ ครอนบาค (Cronbach’s Coefficient of Alpha) ค่าเท่ากับ 0.86
ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง Very High Risk Pregnancy Udonthani 7 Step คือ 1) ได้รับการติดตามเยี่ยมโดยสหวิชาชีพทุกราย 2) มีการวางแผนการดูแลรักษาร่วมกัน 3)สื่อสารให้ความรู้ Early Warning Sigh แก่หญิงตั้งครรภ์ ญาติ ครอบครัวและชุมชน 4) จัดทำMapping แผนที่บ้านผู้ป่วยและศูนย์ส่งต่อ 5) รพ.สต.ติดตามเยี่ยมทุกสัปดาห์ 6) หญิงตั้งครรภ์ ญาติ ครอบครัวและชุมชน รับรู้เข้าใจขั้นตอนการส่งต่อกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ผ่านเบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ และเบอร์1669 และ 7) วางแผนส่งต่อและรับไว้รักษาที่ รพ.เครือข่ายร่วมกันทุกราย กระบวนการดังกล่าวมีประสิทธิผลภายใต้การมีส่วนร่วมญาติ ครอบครัวและชุมชน สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการ ผลลัพธ์1) อัตรามารดาตายมีแนวโน้มลดลง เท่ากับ 17.65 ต่อแสนการเกิดมีชีพ 2)คะแนนความรู้ความสามารถการให้บริการแก่หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05(p<0.001)โดยความรู้ เพิ่มขึ้นจาก 13.24 เป็น 18.63 ความสามารถเพิ่มขึ้นจาก 7.81 เป็น 9.60 3)หญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์มีความพึงพอใจภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.58 ข้อเสนอแนะควรพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการคัดกรอง ดูแลและส่งต่อหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูงอย่างต่อเนื่อง ควรมีการศึกษาวิจัยพัฒนาการดูแลหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019และการรับวัคซีนป้องกัน และวิจัยพัฒนาการดูแลหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงการใช้สารเสพติด
คำสำคัญ กระบวนการดูแล หญิงตั้งครรภ์เสี่ยง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ระนอง เกตุดาว นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี, ปาริชาติ สาขามุละ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ,ฉวีวรรณ ศรีดาวเรือง พยาบาลศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต อาจารย์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุดรธานี
Ranong Ketdao1,Parichart Sakamura2,Chaweewan Sridoaroung3
References
2.สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย แนวโน้มอัตราส่วนการตายมารดาไทย เอกสารการประชุมคณะอนุกรรม กพว. ครั้งที่ 1-2564;2564 : 4.
3.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี .เอกสารประกอบการตรวจราชการ จังหวัดอุดรธานี เขตสุขภาพที่ 8 รอบที่ 2/2563 ระหว่างวันที่ 10 – 12 มิถุนายน 2563 : 56-65.
4.สันติ ทวยมีฤทธิ์.การพัฒนารูปแบบการนำนโยบายคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอในการดำเนินงานมหัศจรรย์1,000วันแรกแห่งชีวิตสู่การปฏิบัติ จังหวัดนครราชสีมา.2562 :
.5.กรมรี แพงดี.การพัฒนาระบบการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่เสี่ยงต่อการคลอดทารกน้ำหนักน้อยโรงพยาบาล ศรีสงคราม.วารสารการพยาบาล สุขภาพและการศึกษา.ปีที่ 3 (ฉบับที่ 1) มกราคม-เมษายน 2563: 28-37.
6.บัวลาและขนิษฐา นันทบุตร.ศักยภาพของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์โดยชุมชนเป็นฐาน.วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.2563.ปีที่ 28 ฉบับที่ 2 (เม.ย. - มิ.ย.) 2563 Volume 28 No. 2 (Apr - Jun) 2020 : 16-26
7.จารินี คูณทวีพันธุ์, อนุรักษ์ กระรัมย์,ระวีวัฒน์ นุมานิต. ผลการพัฒนาแบบคัดกรองหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะครรภ์เสี่ยงสูงในเครือข่ายบริการสุขภาพจังหวัดบุรีรัมย์.วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. 2562; ปีที่15
(ฉบับที่1) มกราคม - เมษายน 2562 :49 – 57.
8. จารุวรรณ เย็นเสมอ.การพัฒนาระบบบริการเครือข่ายแบบห้องคลอดเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการตายของมารดาจากสาเหตุที่ป้องกันได้ จังหวัดสุรินทร์. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9. ปีที่ 15 ;ฉบับที่ 36 มกราคม-เมษายน 2564 : 143 – 159.
9.จารุรักษ์ นิตย์นรา , ลาวรรณ ศรีสูงเนิน.ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานของหญิงตั้งครรภ์. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9: วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม. ปีที่13 (ฉบับที่ 13) มกราคม - เมษายน 2562 :27-43.
10.ฐิรวรรณ บัวแย้ม, เพียงบุหลัน ยาปาน ,สุจิตตรา พงศ์ประสบ.การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด. วารสารพยาบาลรามา. ปีที่ 25 ฉบับที่ 3 พฤศจิกายน – ธันวาคม 2562 : 243-254.
11. สุรพงศ์ เอียดช่วย.การจัดบริการฝากครรภ์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดสงขลา[ วิทยานิพนธ์การศึกษาหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต].สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ;2554.
12.เพ็ญจันทร์ ชัยชมพู,ฉวีวรรณ ศรีดาวเรือง.ประสิทธิผลของการใช้แนวทางการแบ่งประเภทการดูแลหญิงตั้งครรภ์จังหวัดอุดรธานีปี 2559 (Udonthani model classifying pregnancy 2016) ในหน่วยบริการปฐมภูมิ 32 แห่ง อ.เมือง จ.อุดรธานี.วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี. ปีที่ 27 ฉบับที่1 มกราคม - เมษายน 2562 : 69 – 79.
13.อมรรัตน์ หิมทอง .การศึกษาวิจัยการประเมินผลการดำเนินงานในแผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี.วารสารวิชาการ
แพทย์เขต 11 .ปีที่ 7 ฉบับที่ 4 ต.ค. - ธ.ค. 2556 : 879 – 889.
14.เพ็ญศรี บำรุง,รัตติยา ทองสมบูรณ,สมทรง บุตรตะ, รําไพ เกตุจิระโชติ . การพัฒนาระบบ บริการพยาบาลหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูงโรงพยาบาลมหาสารคามและโรงพยาบาลชุมชนเครือข่ายจังหวัดมหาสารคาม .วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ.2559; ปีที่ 34 (ฉบับที่1) : 37-45.
15.สุวรรณมณี วุฒิ,บุญศรี กิตติโชติพาณิชย์.ความพึงพอใจของผู้มารับบริการต่อการให้บริการคลินิกครรภ์เสี่ยงสูง โรงพยาบาลราชวิถี .วารสารสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. ปีที่ 2 (ฉบับที่ 1 )มกราคม – ธันวาคม 2560: 43-58.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆบทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักณอักษรจากวารสารศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทยก่อนเท่านั้น