ประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมทันตสุขภาพต่อพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปากของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ
คำสำคัญ:
โปรแกรมการส่งเสริมทันตสุขภาพ,อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการทำวิจัยแบบกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมทันตสุขภาพต่อพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปากของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจำนวน 92 คน แบ่งเป็นกลุ่มละ 46 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการส่งเสริมทันตสุขภาพต่อพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปาก ใช้เวลา 6 สัปดาห์ การเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้แบบสอบถาม และแบบบันทึกปริมาณแผ่นคราบจุลินทรีย์ การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชิงพรรณนา ใช้วิเคราะห์การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยภายในกลุ่ม ใช้สถิติ Paired Sample T-test และ wilcoxon matched pairs signed ranks test เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยระหว่างกลุ่มใช้สถิติ Independent Sample T-test และ Mann-Whitney U test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานด้านทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากดีกว่าก่อนทดลองและค่าคะแนนเฉลี่ยของการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากดีกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ค่ามัธยฐานของปริมาณแผ่นคราบจุลินทรีย์ในกลุ่มทดลองลดลงกว่าก่อนการทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปการใช้โปรแกรมการส่งเสริมทันตสุขภาพต่อพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปาก มีผลทำให้กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขรับรู้ความสามารถของตนเองในการดูแลสุขภาพช่องปาก มีทัศนคติที่ดีขึ้น สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี และมีปริมาณแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่ลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดโรคในช่องปากได้และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นได้
คำสำคัญ: โปรแกรมการส่งเสริมทันตสุขภาพ,อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
References
เอกสารอ้างอิง
กิติศักดิ์ วาทโยธา, ศิวิไลซ์ วนรัตน์วิจิตร. (2562). ประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพช่องปากต่อ
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียนอายุ 12 ปี เขตพื้นที่อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัด
กำแพงเพชร. บทวิทยาการ, 40(1), 81-96.
ธนวัฒน์ มังกรแก้ว. (2559). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน.
วารสารราชนครินทร์, 143-150.
นฤมล จันทร์สุข, ยุทธนา พินิจกิจ และ ชวนนท์ จันทร์สุข. (2562). ผลของการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพช่องปาก
ในผู้สูงอายุ โรคเบาหวานชนิดที่2. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี, 27(1), 30-39.
ไพสิฐ ภิโรกาศ, อรวรรณ กีรติสิโรจน์. (2562). ผลของโปรแกรมประยุกต์ความสามารถของตนเองต่อ
พฤติกรรมการดูแลทางทันตสุขภาพของผู้สูงอายุ ในชมรมผู้สูงอายุ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์.
วารสารสุขศึกษา, 42(2), 110-122.
มนัสนันท์ ชัยประทาน. (2558). ความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมในการป้องกันโรคฟันผุของอาสาสมัคร
สาธารณสุขในเขต อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 3(3), 357-366.
รุ่งเพ็ชร บุญทศ. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ความสามารถตนเองกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่อง
ปากของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลบ้านปึก อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี. วารสารทันตา ภิบาล, 31(2), 65-76.
วรรษชล ลุนาวัน, บัววรุณ ศรีชัยกุล และ จตุพร เหลืองอุบล. (2560). ผลของโปรแกรมการดูแลสุขภาพช่องปาก
โดยประยุกต์ทฤษฎีกำกับตนเองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุในเขตตำบลวังยาง อำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 9(2), 80-89.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. (2560). รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8
ประเทศไทย พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ:บริษัท สามเจริญพาณิชย์ จำกัด
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. (2560). เอกสารการคัดเลือก อสม.ดีเด่น สาขาทันตสุขภาพ.
สืบค้น 13 พฤษภาคม 2565. จาก https://dental.anamai.moph.go.th/web-upload/migrated/files/dental2/n2999_03f59d115c10479343a19884ba56b06b_article_20190723101540.pdf
อาภาพร เผ่าวัฒนา และคณะ. (2556). การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน:การประยุกต์แนวคิด
และทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 3)ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา.
Bandura,A. (1997). Social Foundation of Thought and Action. Englewood Cliffd,NJ : Prentice-
Hall.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสารทันตาภิบาล
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารทันตาภิบาล