ผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลก่อนคลอดต่อความวิตกกังวลของหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึก

ผู้แต่ง

  • มลิวัลย์ รัตยา วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • อรวรรณ ฤทธิ์มนตรี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

DOI:

https://doi.org/10.60099/jtnmc.v40i03.273362

คำสำคัญ:

โปรแกรมการเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดคลอด , ความวิตกกังวล , หญิงตั้งครรภ์ , การผ่าตัดคลอด

บทคัดย่อ

บทนำ การผ่าตัดคลอดเป็นวิธีการคลอดบุตรที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันโดยเฉพาะในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์หรือการคลอดหรือในหญิงตั้งครรภ์ที่เคยผ่าตัดคลอดมาแล้ว แม้การผ่าตัดคลอดจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยเมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลก่อนการผ่าตัด ทั้งในด้านความเจ็บปวด ผลข้างเคียงจากยาระงับความรู้สึก ความเสี่ยงของการผ่าตัด ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ความวิตกกังวลก่อนการผ่าตัดถือเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวหลังคลอด ความร่วมมือในการดูแลรักษา ตลอดจนประสบการณ์โดยรวมในการคลอดบุตร ดังนั้น การพัฒนาแนวทางต่าง ๆ เพื่อช่วยลดความวิตกกังวลดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะพัฒนาและศึกษาผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ต่อความวิตกกังวลของหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึกในการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง โดยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอสำหรับหญิงตั้งครรภ์ปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่กระตุ้น 

วัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อเปรียบเทียบความวิตกกังวลของหญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มทดลองก่อนและหลังได้รับโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึก ในการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง และ 2) เพื่อเปรียบเทียบความวิตกกังวลหลังการทดลองของหญิงตั้งครรภ์ระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึกในการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ 

การออกแบบการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นแบบกึ่งทดลองชนิดสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง โดยใช้แนวคิดความวิตกกังวลของสปีลเบิร์กที่อธิบายความหมาย สิ่งกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวล ระดับของความวิตกกังวล และการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นให้เกิดความเครียดและใช้ทฤษฎีปรับตนเองของลีเวนทาล และจอห์นสันในการพัฒนาโปรแกรมเพื่อลดความวิตกกังวล ประกอบด้วย การสร้างแบบแผนความรู้ความเข้าใจ หรือภาพในจินตนาการ ซึ่งเป็นโครงสร้างความรู้ความเข้าใจที่ซับซ้อนที่มนุษย์สร้างขึ้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา โดยแบบแผนความรู้ความเข้าใจที่สร้างขึ้นจะเป็นตัวชี้นำความสนใจของมนุษย์เพื่อเป็นแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบุและใช้ข้อมูลที่มีอยู่นำไปสู่การกระทำพฤติกรรมอย่างมีเป้าหมาย โดยหญิงตั้งครรภ์จะตอบสนองด้วยการแสวงหาข้อมูลเพื่อความรู้ความเข้าใจในเหตุการณ์ และพิจารณาแนวทางการตอบสนองด้านพฤติกรรมอารมณ์ ทําให้บุคคลสามารถตัดสินใจเลือกวิธีเผชิญกับสถานการณ์ได้

การดําเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่นัดมาผ่าตัดคลอดที่โรงพยาบาลทั่วไปแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ จำนวน 60 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ตามเกณฑ์ การคัดเข้า ประกอบด้วย อายุ 18 ปี ขึ้นไป ไม่มีภาวะแทรกซ้อน นอนโรงพยาบาลเพื่อเตรียมการผ่าตัด อย่างน้อย 1 วัน ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด และได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วตัว หรือเฉพาะส่วน ระหว่างผ่าตัด มีสติสัมปชัญญะดี สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นหรือการได้ยิน และสมัครใจและยินยอมเข้าร่วมการวิจัย จัดเข้ากลุ่มกลุ่มทดลอง 30 คน และกลุ่มควบคุม 30 คน แบบเจาะจง เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย 1) โปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลก่อนคลอดในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึกในการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ซึ่งใช้รูปแบบของการให้ข้อมูล คือ แผนการสอน และเอกสารคู่มือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะขั้นตอน และวิธีการระงับความรู้สึก ประวัติของหญิงตั้งครรภ์ที่มีผลต่อการให้ยาระงับความรู้สึก การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยก่อนและหลังเข้ารับการผ่าตัด และการระงับความรู้สึก ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะและหลังได้รับยาระงับความรู้สึก และ 2) แบบวัดความวิตกกังวล ในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลแบบปกติ ในขณะที่ กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลก่อนคลอดในการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ที่ได้รับยาระับความรู้สึก โดยการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนและแจกเอกสารคู่มือ ภายหลังการผ่าตัด กลุ่มทดลองได้รับยาระงับความรู้สึกต่ออีก 1 วันและได้รับการตรวจเยี่ยมที่หอผู้ป่วยและตอบแบบวัดความวิตกกังวลหลังได้รับยาระงับความรู้สึกอีกครั้งภายในเวลา 1 วัน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Chi-square test, Independent t-test, Wilcoxon Signed Ranks test uas Mann-Whitney U test

ผลการวิจัย กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองมีอายุเฉลี่ย 30.70 ปี (SD= 0.94) และ 30.83 ปี (SD = 0.77) ตามลําดับ ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลการตั้งครรภ์และการคลอดของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานของความวิตกกังวลของหญิงตั้งครรภ์ ก่อนเข้าร่วมโปรแกรมเท่ากับ 65 (Max=72, Min=60) ซึ่งอยู่ในระดับสูง หลังเข้าร่วมโปรแกรม ค่ามัธยฐานของความวิตกของหญิงตั้งครรภ์ เท่ากับ 34 (Max=37, Min=29) ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ ภายหลังเข้าร่วม โปรแกรมกลุ่มทดลองมีความวิตกกังวลน้อยกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม (Z = 4.790, p=.001) และ น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (U = 6.686, p = .001)

ข้อเสนอแนะ โปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลก่อนคลอดในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึกในการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ซึ่งมุ่งเน้นการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผน มีประสิทธิผล ในการลดความวิตกกังวลของหญิงตั้งครรภ์สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในการดูแลในรูปแบบปกติได้ การศึกษาครั้งต่อไปควรออกแบบโดยใช้การวิจัยเชิงทดลอง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Turksal E, Alper I, Sergin D, Yuksel E, Ulukaya S. The effects of preoperative anxiety on anesthetic recovery and postoperative pain in patients undergoing donor nephrectomy. Braz J Anesthesiol. 2020 May-Jun; 70(3):271-7. https://doi.org/10.1016/j.bjan.2020.03.010 PMID: 32653228 PMCID: PMC9373665

Chularee S. Incidence of post-operative complications, nursing management and outcomes in patients at post anesthesia care unit. Journal of Nursing and Health Care. 2017;35(4):194-203. available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jnat-ned/article/view/111877 (in Thai)

Chaikongkiat P, Bunlap P, Harnnarong A. Factors related to breastfeeding self-efficacy of mothers after cesarean section. Nursing Public Health and Education Journal. 2020 Jan-Apr;21(1):16-28. Available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnpy/article/download/230064/164368/836954 (in Thai)

Anuwutnawin S. Surgical abortion. In: Vanichpongphan B, Rasmijaroen K, Lertbanpong T, editors. Obstetrics textbook. Department of Obstetrics and Gynecology, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University; P.A. Living Co., Ltd.; 2017. p.368-383. (in Thai)

Heather N, Lisa L. Anesthesia for cesarean delivery. In: Chestnut DH, editor. Chestnut’s obstetric anesthesia. 5th ed. Philadelphia: Elsevier; 2023. p. 545–93.

Fakherpour A, Ghaem H, Fattahi Z, Zaree S. Maternal and anaesthesia-related risk factors and incidence of spinal anaesthesia-induced hypotension in elective caesarean section: A multinomial logistic regression. Indian J Anaesth 2018;62(1):36-46. https://doi.org/10.4103/ija.IJA_416_17 PMID: 29416149 PMCID: PMC5787888

Sittipa K, Baosoung C, Sansiriphun N. Anxiety, social support, and postpartum functional status among first- time mothers. Nursing Journal. 2017;44(3): 31-40. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/115311 (in Thai)

Pinchaleaw D, Bhoosahas P. Factors related to women’s distress after cesarean section. J Royal Thai Army Nurses [internet]. 2015;16(1):101-8. Available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/36165 (in Thai)

Somphet S, Noonart T. Effects of training with a simple relaxation music and meditation program on the level of anxiety of pregnant women while waiting for a cesarean section. Thai Journal of Public Health and Health Education [Internet]. 2024 May-Aug;4(2):1-15. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjphe/article/view/268179 (in Thai)

Boonma P, Buranakiti T. Effects of a program for preparing pregnant women before spinal anesthesia on knowledge, attitude, and anxiety among first-time mothers who gave birth by C-Section at Lamphun hospital. Journal of Environmental and Community Health. 2025 Jan–Feb;10(1):76-84. available from: https://he03.tcithaijo.org/index.php/ech/article/view/3811 (in Thai)

Leventhal H, Johnson JE. Laboratory and field experiment of a theory of self-regulations. In: Wooldridge PJ, Schmitt MH, Skipper JK, Leonard RC, editors. Behavioral science and nursing theory. St. Louis: Mosby; 1983. p. 189–262.

Cohen J. Statistical power analysis for the behavioral sciences (2nd ed.). Routledge; 1988. Available from: https://doi.org/10.4324/9780203771587

Puttaruk W. The effect of readiness pattern of care for patients undergoing general anesthesia on state anxiety in Srisangwornsukhothai hospital Sukhothai province. Nursing Journal. 2021 Jan-Mar;48(1): 269-80. Available from: https://he02.tcithaijo.org/index.php/cmunursing/article/download/248694/170118 (in Thai)

Polit DF, Beck CT. Essential of nursing research: appraising evidence for nursing practice. 8th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2014.

Spielberger CD (Ed.). Anxiety and behavior. Academic Press; 1966.

Kotchabhakdi N, Vorrakitpokatorn S, Nisaisuk M. State-trait anxiety inventory. In: Prasert Y, Namjuntra R. Effects of self-regulation program via line application on anxiety, cooperative behaviors, and duration of examination in patients undergoing bronchoscopy. Thai J Cardio-Thorac Nurs. [internet]. 2023 Aug;28;34(1):57-73. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/journalthaicvtnurse/article/view/259855 (in Thai)

Satiantanasat N. Effects of pre-operative preparation program of pregnant woman undergoing cesarean section in Yasothon hospita. Yasothon Medical Journal [Internet]. 2024;26(1):169-182. Available from: https://he04.tcithaijo.org/index.php/hciyasohos/article/view/1073 (in Thai)

Ingthaisong T. The effectiveness of using pre -anesthetic preparation program on knowledge and behavior of primigravida mothers receiving spinal anesthesia for cesarean section. Nursing, Health, and Education Journal [Internet]. 2021 May-Aug; 4(2):15-24. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/NHEJ/article/view/251385 (in Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-07-08

รูปแบบการอ้างอิง

1.
รัตยา ม, ฤทธิ์มนตรี อ. ผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการดูแลก่อนคลอดต่อความวิตกกังวลของหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับยาระงับความรู้สึก . J Thai Nurse Midwife Counc [อินเทอร์เน็ต]. 8 กรกฎาคม 2025 [อ้างถึง 29 ธันวาคม 2025];40(03):471-87. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJONC/article/view/273362

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles