The Development of The Nursing Service System for Patients with Sepsis Photharam Hospital at Ratchaburi Province
Abstract
ABSTRACT
Objective: To develop and evaluate outcomes of using the nursing service system for patients with sepsis developed.
Methods: This research and development (R&D) was composed of six phases. Phase one was an analysis of the nursing service situation for patients with sepsis. Phase two was the development of the nursing service system for patients with sepsis in Photharam Hospital. Phase three was the trial of the system developed in the female medical ward. Phase four was the system evaluation and improvement. Phase five was the implementation of the system improved in the female and male medical wards. Phase six was the evaluation of the system. There were two groups of participants. Firstly, participants were 255 patients with sepsis treated in the female and male medical wards and selected by purposive sampling technique. They were divided into two groups. 120 sepsis patients admitted between April and June 2019, before developing the system were the participants of group one. The other one comprised 135 sepsis patients admitted between April and June 2020. Secondly, 31 registered nurses practicing from November 2019 to June 2020 were the participants. The instruments were the sepsis patient record form of Photharam Hospital, nurse practice assessment form, nursing supervision form, and nurse’s satisfaction assessment form. The reliabilities of the tools were 0.62, 0.90, and 0.90 respectively. The researchers analyzed the data using descriptive statistics, frequency, percentage, average, standard deviation, and chi-square test.
Results: The nursing service system for sepsis patients developed was practical. About the outcomes, the study found that death rate of those with sepsis decreased from 36.70 to 32.60 percent. Rate of septic shock decreased from 46.70 to 39.30 percent. The nursing outcome with a statistically significant change was the rate of patients receiving antibiotic medicine within one hour after the diagnosis increasing from 96.70 to 100 percent (x2- test = 4.57, p = .04). An overall finding of nursing process supervision after developing the system was that 96.77 percent of participants met criteria of 80 percent. The results of the nursing practicing assessment showed that 100 percent of participants met criteria of 80 percent. Furthermore, 93.54 percent of the registered nurses rated their satisfactions in the system developed at high level and above.
Conclusion: Developing the nursing service system for patient with sepsis in this study is useful for providing care. The results of the development should be applied in providing nursing care to patients with other diseases to promote and create good outcomes and quality improved.
References
2.ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ. Sepsis.ใน: จันทราภา ศีสวัสดิ์, อัมพา สุทธิจำรูญ, ประเจษฎ์ เรืองกาญจนเศรษฐ์, และคณะ.อายุรศาสตร์ฉุกเฉิน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: อักษรการพิมพ์;2553. 479 - 87.
3.สุณีรัตน์ คงเสรีพงศ์, ดวงมณี เลาหประสิทธิพร.แนวทางการรักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีภาวะSevere sepsis/septic shock. กรุงเทพฯ: คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล; 2554.
4.นภาพร อภิรดีวจีเศรษฐ์, พิมพ์จิตร กาญจนสินธุ์. ใน: สุณีรัตน์ คงเสรีพงศ์, ดวงมณี เลาหประสิทธิพร. แนวทางการรักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีภาวะ Severe sepsis/septic shock. กรุงเทพฯ: คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล; 2554. 42–53.
5.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รายละเอียดตัวชี้วัด กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2562. นนทบุรี: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน; 2562. 148-51.
6.Rivers E, Nguyen B, Havstad S, et al. Early goal-directed therapy in the treatment of severe sepsis and septic shock. N Engl J Med.2001;345(19):1368-77. Doi: 10.1056/NEJMoa010307.
7.กองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.แนวทางการพัฒนาระบบบริการพยาบาล Service plan.นนทบุรี: สื่อตะวัน;2561.
8.ศูนย์พัฒนาคุณภาพ โรงพยาบาลโพธาราม. รายงานการประเมินตนเอง SAR 2018 ประจำปี 2561. ราชบุรี:โรงพยาบาลโพธาราม; 2561.
9.ฝ่ายแผนงาน โรงพยาบาลโพธาราม. แผนยุทธศาสตร์ โรงพยาบาลโพธาราม ประจำปี 2561. ราชบุรี: โรงพยาบาลโพธาราม; 2561.
10.สมาคมเวชบำบัดวิกฤต. แนวทางปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วย severe sepsis และ septic shock. Kidney International Supplement (2012) 2,4; doi:10.1038/kisup.2012.7.
11. สมใจ จันทะวัง. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ในงานห้องผู้ป่วยหนัก 2 โรงพยาบาลลำพูน วารสารโรงพยาบาลแพร่. 2560;26(1): 35-46.
12. สมจิต หนุเจริญกุล. การพยาบาล:ศาสตร์ของการพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ: วีเจพริ้นติ้ง; 2544.
13. วิทยา บุตรสาระ, ยุพนา ลิงลม, และ สำเนียง คำามุข. การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม ฉบับการประชุมวิชาการครบรอบ 25 ปี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม. 2559;17.
14. ฑิตยา วาระนัง. ผลลัพธ์ของการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตโรงพยาบาลฝาง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารเชียงรายเวชสาร. 2562;11(1): 1-8.
15.ภาพิมล โกมล, รัชนี นามจันทรา,วารินทร์ บินโฮเซ็น.คุณภาพการจัดการดูแลผู้มีกลุ่มอาการติดเชื้อในกระแสเลือดที่หน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสิงห์บุรี. ปริญญานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต. 2560.
16. รัฐภูมิ ชามพูนท, ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล, บุญส่ง พัจนสุนทร. แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วย Severe Sepsis และ Septic Shock: สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย. 2558.
17.กรรณิกา อำพนธ์, ชัชญาภา บุญโยประการ, พัชรินทร์ ศิลป์กิจเจริญ. ผลลัพธ์ของการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิต โรงพยาบาลพระปกเกล้า. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า. 2560; 34(3): 222.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนบทความ แต่หากผลงานของท่านได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ลงวารสารแพทย์เขต 4-5 จะคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรกด้วยเหตุที่บทความจะปรากฎในวารสารที่เข้าถึงได้ จึงอนุญาตให้นำบทความในวารสารไปใช้ประโยชน์ได้ในเชิงวิชาการโดยจำเป็นต้องมีการอ้างอิงถึงชื่อวารสารอย่างถูกต้อง แต่ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
