ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ที่มารับบริการในหน่วยปฐมภูมิ
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง, พฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง, อายุ, ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง, การสนับสนุนจากผู้ให้บริการบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาหาความสัมพันธ์เชิงทำนายเพื่อศึกษาปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่มารับบริการในหน่วยปฐมภูมิ กลุ่มตัวอย่าง คือผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองที่มารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 3 แห่ง ในเขตอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 88 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการเลือกแบบสะดวก เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง แบบสอบถามการได้รับการสนับนุนจากผู้ให้บริการ และแบบสอบถามพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์อำนาจการทำนายโดยใช้สถิติการถดถอยแบบพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุ 61 ขึ้นไป (= 65.6 ปี) คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอยู่ในระดับสูง (= 3.09, S.D. = .25) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมด้านการใช้ยา/ติดตามการรักษา พฤติกรรมด้านการสูบบุหรี่/ดื่มแอลกอฮอล์ และพฤติกรรมด้านการออกกำลังกายอยู่ในระดับสูง ส่วนพฤติกรรมด้านการจัดการความเครียดและพฤติกรรมด้านการบริโภคอาหารพบว่าอยู่ในระดับปานกลาง การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์ถดถอยพหุพบว่าตัวแปรอิสระทั้งหมดสามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงได้ร้อยละ 25.9 (R2 = .259, F = 9.78, p-value < .001) แต่พบว่ามีเพียงตัวแปรอายุและความตระหนักรู้ต่อโรคหลอดเลือดสมองที่มีอำนาจการทำนายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β = -.209, p < .05 และ β = .393, p < .001)
จากการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรสาธารณสุขควรมีการส่งเสริมให้กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มผู้สูงอายุเห็นถึงความสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ควรมีการคัดกรองและประเมินความเสี่ยง เพื่อให้ได้รับความรู้จนเกิดความตระหนักรู้ถึงโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองและสามารถปฏิบัติพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงแนะนำให้สังเกตอาการของโรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเองตามหลัก (FAST) เพื่อให้สามารถตัดสินใจไปรับการรักษาอย่างทันท่วงทีเมื่อมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการรักษาด้วยยาที่เหมาะสมและลดความพิการที่อาจหลงเหลือมีอาการ
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล ซึ่งดำเนินการโดยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล หรือวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว