การดูดสิ่งคัดหลั่งเหนือกระเปาะยางสำหรับผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ (Supra-cuff Suctioning): นวัตกรรมเพื่อป้องกันปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ*

ผู้แต่ง

  • เบญจมาศ ทำเจริญตระกูล
  • ดลวิวัฒน์ แสนโสม

คำสำคัญ:

การดูดเสมหะ, ปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ, การดูดสิ่งคัดหลั่งเหนือกระเปาะลมท่อช่วยหายใจ

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

          การป้องกันการเกิดปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ (Ventilator associated pneumonia : VAP)  มีความสำคัญเนื่องจากเมื่อเกิด  VAP จะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้น  8.2  %  (Nguile-Makao et  al., 2010; Tamayo et al., 2012)  เพิ่มระยะเวลาที่ใช้เครื่องช่วยหายใจในหอผู้ป่วยหนักนานขึ้นเฉลี่ย  27.4  วัน  ระยะเวลาที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนักนานขึ้นเฉลี่ย  28.4  วัน  ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงขึ้นคือเฉลี่ย  26,689.80  บาท ต่อการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ 1 ครั้ง (เพ็ญศรี  ลออ และรัตนา เอกจริยาวัฒน์, 2553) เพราะเมื่อใส่ท่อช่วยหายใจ สิ่งคัดหลั่งจากปากและคอจะสะสมเหนือกระเปาะลมยาง (endotracheal  tube  cuff: ET cuff ) เมื่อเกิดการสำลักลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่างจะทำให้เกิด VAP การดูดเสมหะบริเวณเหนือกระเปาะลมยางหรือ supra-cuff suctioning จึงเป็นวิธีช่วยกำจัดสิ่งคัดหลั่งเหนือ ET cuff ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด VAP

          บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์หลัก  2  ประการคือ  1)  นำเสนอวิธีการทำ supra-cuff suctioning และ  2)  รายงานผลการประเมินประสิทธิภาพของการทำ supra-cuff suctioning จากการนำไปให้พยาบาลวิชาชีพประจำหอผู้ป่วยหนักจำนวน 15 คนทดลองใช้  supra-cuff suctioning  หลังการทดลองใช้พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยความรู้ ทัศนคติ  และทักษะในการทำ  supra-cuff  suctioning เพิ่มขึ้น  และมีค่าเฉลี่ยคะแนนความพึงพอใจของพยาบาลอยู่ในระดับดี  ในด้านผู้ป่วยพบว่าหลังได้รับการดูดสิ่งคัดหลั่งเหนือกระเปาะลมยาง  ผู้ป่วยมีค่าเฉลี่ยคะแนนสิ่งคัดหลั่ง (secretion score) ลดลงมีค่าเฉลี่ย Oxygen saturation เพิ่มขึ้นและค่า Mean arterial pressure (MAP) ไม่แตกต่างระหว่างก่อนและหลังการดูดสิ่งคัดหลั่ง  ดังนั้นการทำ supra-cuff  suction จึงมีประสิทธิภาพในการช่วยลดปริมาณสิ่งคัดหลั่งที่อยู่เหนือ ET cuff ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนมากขึ้นโดยไม่ส่งผลทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเมื่อทำการดูดเสมหะ จึงควรนำไปใช้ประกอบกิจกรรมอื่นๆ เพื่อป้องกันการเกิด VAP ต่อไป

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2018-06-29