ผลของการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงต่อการรับรู้ทักษะทางปัญญาและประสบการณ์ของนักศึกษาพยาบาลในการดูแลสตรีตั้งครรภ์ระยะคลอด
คำสำคัญ:
การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง, ทักษะทางปัญญา, นักศึกษาพยาบาลบทคัดย่อ
การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงตนเองทั้งด้านความรู้ การคิดวิเคราะห์ อารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรม โดยอาศัยกระบวนการสะท้อนคิดและเรียนรู้จากประสบการณ์ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังทดลอง เพื่อศึกษาการรับรู้ทักษะทางปัญญาและประสบการณ์ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ จำนวน 155 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วยโปรแกรมการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง แบบประเมินการรับรู้ทักษะทางปัญญา และแบบบันทึกประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรม มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ระหว่าง 0.60-1.00 และค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ .91 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและ Pair t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. การรับรู้ทักษะทางปัญญาของนักศึกษาหลังเข้าร่วมการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงอยู่ในระดับดี (M = 3.33, SD = 0.42) และสูงกว่าก่อนเข้าร่วม (M = 3.09, SD = 0.52) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = -5.728, p < .01) โดยด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดคือด้านสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูล 2. ประสบการณ์ของนักศึกษาผ่านกระบวนการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง พบการเรียนรู้ 4 ประเด็น ได้แก่ 1) เข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดและทรมานในระยะคลอด 2) ความรู้สึกภูมิใจและมีคุณค่าต่อสตรีตั้งครรภ์ระยะคลอด 3) การตระหนักรู้จุดเด่นและจุดพัฒนาของตนเองในการปฏิบัติการพยาบาล และ 4) ความมั่งมุ่นและความตั้งใจดูแลสตรีตั้งครรภ์ระยะคลอด จากผลการวิจัยนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงช่วยให้นักศึกษาเข้าใจตนเองและผู้อื่น ช่วยพัฒนาทักษะการสืบค้นและการคิดวิเคราะห์ เพื่อเกิดผลลัพธ์ในการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ระยะคลอดที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
References
ชนัดดา ภูหงส์ทอง. (2561). การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง: ความท้าทายของผู้สอนในระดับอุดมศึกษา. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 24(1), 163-182.
ชลการ ทรงศรี, และเทพไทย โชติชัย. (2563). ผลการสะท้อนคิดในรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคพยาบาล. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 7(2), 217-229.
พิไลพร สุขเจริญ. (2564). การประยุกต์แนวคิดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง : ถอดบทเรียนจากประสบการณ์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน, 27(2), 132-141.
รวิภา บุญชูช่วย, และสกาวเนตร ไทรแจ่มจันทร์. (2561). การศึกษาผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติภายหลังการฝึกปฏิบัติการพยาบาลอนามัยชุมชนตามการรับรู้ของนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ ชั้นปีที่ 4. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(2), 161-169.
รัตติกร เหมือนนาดอน, ยุพาภรณ์ ติรไพรวงศ์, เจียมใจ ศรีชัยรัตนกูล, และสันติ ยุทธยง. (2562). การพัฒนาการเรียนรู้ผ่านการสะท้อนคิด Learning Development through Reflection. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 35(2), 13-25.
อมาวสี อัมพันศิริรัตน์, กัญญ์สิริ จันทร์เจริญ, ปิยรัตน์ จีนาพันธุ์, วัจมัย สุขวนวัฒน์, อัจริยา วัชราวิวัฒน์, และวราภรณ์ ศิวดำรงพันธุ์. (2556). การพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2555 ของเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุข ภาคใต้. วารสารวิจัยทางวิทยาสาสตร์สุขภาพ, 7(2), 1-9.
องค์อร ประจันเขตต์. (2557). การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง: มุมมองในการศึกษาทางการพยาบาล. วารสารพยาบาลทหารบก.15(3), 179-184.
Alfaro-LeFevre, R. (2014). Applying nursing process: The foundation for clinical reasoning (8th ed). Lippincott- Williams & Wilkins.
Mezirow, J. (1978). Perspective transformation. Adult Education, 28(2), 100-110.
Mezirow, J. (1991). Transformative dimensions of adult learning. Jossey-Bass.
Pacific Policy Research Center. (2010). 21th Century skills for students and teachers. Kamehamecha. School, Research & Evaluation division.
Parnichparinchai, T. (2016). Transformative learning: A learning management in pre-service teacher training. The Golden teak: Humanity and social science, 22(2), 1-11.
Renigere R. (2014). Transformative learning in the discipline of nursing. American Journal Education Research, 12(2), 1207–1210.
Rogers, C. R. (1983). Freedom to learn for the 80s. Merrill.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล ซึ่งดำเนินการโดยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล หรือวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว