ประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
คำสำคัญ:
ประสบการณ์, การดูแลตนเอง, ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2, การวิจัยเชิงคุณภาพบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงห่องแห่ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 19 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสัมภาษณ์เชิงลึกกึ่งโครงสร้าง บันทึกภาคสนาม แบบบันทึกการถอดความและการลงรหัสข้อมูล เครื่องบันทึกเสียง เก็บข้อมูลโดยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติ ความถี่ ร้อยละ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีของโคไลซี ผลการวิจัยพบว่า ประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ด้านพฤติกรรมการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย 2 ประเด็นหลัก 1. การกำกับตนเองในด้านต่างๆ 2. การจัดการอาการที่ผิดปกติ ด้านสิ่งที่สนับสนุนในการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ประกอบด้วย 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. มุมมองและการให้ความหมายของโรคเบาหวาน 2. แรงจูงใจ 3. แรงสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวและชุมชน 4. การเข้าถึงข้อมูลการดูแลตนเองจากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย และด้านสิ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ภาวะการเจ็บป่วยแทรกซ้อนระหว่างการรักษา 2. สถานการณ์ที่ทำให้เกิดภาวะเครียด 3. อายุที่มากขึ้น ดังนั้นทีมสุขภาพสามารถนำข้อค้นพบที่ได้ไปใช้ในการออกแบบระบบและรูปแบบการส่งเสริมแนวคิดมุมมองด้านบวก และพัฒนาศักยภาพการดูแลตนเองของผู้ป่วย โดยเน้นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระยะยาว
References
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2566). แนวทางการดำเนินงาน การดูแลผู้เป็นเบาหวานให้เข้าสู่ระยะ สงบ. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
จรัสพร หอมจันทร์ดี, และเพ็ญนภา แดงด้อมยุทธ์. (2562). ผลของโปรแกรมการสนับสนุนทางสังคมที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อภาระการดูแลของผู้ป่วยจิตเภทของชุมชน. วารสารพยาบาลตำรวจ, 11(2), 433-443.
จารุวรรณ ไผ่ตระกูล, ศรีสุดา รัศมีพงศ์, กวินนา พันธ์สวัสดิ์, สุนัฐนันท์ พิมตะครอง, เบญจรัตน์ นรภาร, ภัทรภา สิริวิริยะพัฒน์, มะปราง เกนการณ์, วิภาวรรณ สำราญบำรุง, และรัตนภูมิ วัฒนปัญญาสกุล (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้ารับบริการ ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตำบลองครักษ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 25(2), 21-31.
ชาย โพธิสิตา. (2562). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 8). สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ดวงใจ พรหมพยัคฆ์, รณภพ อิ้มทัพ, ภัทรพร จูจันทร์, และวันวิสา วัฒนกุล. (2560). ประสบการณ์การจัดการตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่อาศัยในเขตพื้นที่สูง: กรณีศึกษา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารสภากาชาดไทย, 10(1), 67-80.
ทวีเกียรติ ตั้งวงศ์ไชย, และ สกลสุภา สิงคิบุตร. (2565). การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและการดูแลแบบ ผู้ป่วยในที่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลด้ามพร้า จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล, 30(2), 168-188.
นงนุช โอบะ, และ นวรัตน์ ชุติปัญญาภรณ์, 2565. ประสบการณ์การจัดการตนเองในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้สำเร็จของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา, 30(1), 1-13.
เพ็ญศรี ทองเพชร, ชุลีพร หีตอักษร, โศตรีย์ แพน้อย, ปิยะดา ยุ่ยฉิม, และพูนศรี จีนด้วง. (2562). การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานในชุมชนบนวิถีธรรมะภูมิปัญญา. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 35(3), 113-119.
ภาวนา กีรติยุตวงศ์, และสมจิต หนุเจริญกุล. (2553). การติดตามประสิทธิภาพในระยะยาวของโปรแกรมการจัดการดูแลตนเองในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 16(2), 293-308.
รัฐติภรณ์ ลีทองดี, วัชรพล วิวรรศน์ เถาว์พันธ์, จีรวัฒน์ บุตรโคตร, ชัญญานุช แคว้นเขาเม็ง, และจินตนา จันสา. (2565). แรงสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลภูเวียง อําเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น. วารสารทันตาภิบาล, 33(2), 83-96.
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, และสมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย. (2566). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2566. ศรีเมืองการพิมพ์.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงห่องแห่. (2566). รายงานสรุปประจำปีงบประมาณ 2565-2566. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองอุบลราชธานี.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. (2560) แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน. โรงพิมพ์ร่มเย็นมีเดียจำกัด.
สิทธิธนา โตอ่อน, และศิริเนตร สุขดี. (2566). ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมค่าระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่คุมไม่ได้ โรงพยาบาลค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารโรงพยาบาลสิงห์บุรี, 32(2), 111-121.
สิรารักษ์ เจริญศรีเมือง, ปัทมา สุพรรณกุล, เบญจมาภรณ์ นาคามดี, และนฤมล เอกธรรมสุทธิ์. (2563). วิถีชีวิตและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 -ของกลุ่มเสี่ยงเขตเมือง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารสุขภาพและการศึกษา, 13(3), 59-77.
สุทัศน์ ศุภนาม, อังคณา สมคง, กรรณิกา รักยิ่งเจริญ, และนิษา เรืองกิจอุดม. (2565). ประสบการณ์การดูแลตนเองตามการรับรู้ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ . วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย, 16(2), 186-197.
อุมาลี ธรศรี, พัชราณี ภวัตกุล, และกานดาวสี มาลีวงษ์. (2561). โปรแกรมส่งเสริมโภชนาการ: ลดหวานมันเค็มประยุกต์กับการกํากับตนเองและแรงสนับสนุนจากครอบครัวในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 48(3), 284-295.
Alvarez, N., Pablo Alvarez Najar, J, Luz Valderrama Sanabria, M., & Priscila Pena Pita, A. (2020). Report of the xperience of living with high blood pressure in light of the theory of caring. Investicaciony Education en Enfermeria, 38(2). E10.
American Diabetes Association. (2020). Facilitating behavior change and wellbeing to improve health outcomes: Standards of medical care in diabetes 2020. Diabetes Care, 43 (Suppl.1) S48-S65.
Bandura, A. (1986). Social foundation of thoughts and action . Prentice-Hall.
Colaizzi P. (1978). Psychological research as the Phenomenologist views it. In Valle R. & King M. eds Existential – Phenomenological alternatives for psychology. (pp.42-59) Oxford University Press.
Epinosa, P.P.J. (2022). Mental health condition and psychological well being of flippino older people: basis for an enhanced community-based mental health program. Aging International,1-15. https://doi.org/10.1007/s12126-022-09502-9
Green, L.W., & Kreuter, M.W. (1991). Health promotion planning: An educational and environmental approach (2nd ed). Mayfield.
Heidegger, M. (1962). Being and Time. MacQuaeeie J. & Robinson E. Trans. Harper & Row.
Hossain, J. Mamun, A, & Islam, R. (2024). Diabetes mellitus, the fastest growing global public health concern: Early detection should be focused, Health Sciences Reports, 38(2), 1-5. https://doi.org/10.1002/hsr2.2004
Husserl, E. (1965). Phenomenology and the crisis of philosophy. Lauer Q. Trans.. Harper & Row.
Lincoln, Y.S., & Guba, E.G. (1985). Naturalistic inquiry. SAGE.
Orem, D. E., Taylor, S. G., & Renpenning, K. M. (2001). Nursing: Concepts of practice (6th ed.). Mosby.
Rosenstock, I.M. (1974). The health belief model and preventive health behavior. Health Education Monographs. 2(4), 354-386.
Sorensen, K., Van den Broucke, S., Fullam. J., Doyle, G., Pelikan, J., Slonska, Z., & Brand, H. (2012). Health literacy and public health: A systematic review and integration of definitions and models. BMC Public Health, 12(80), 1-13.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล ซึ่งดำเนินการโดยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล หรือวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว