ผลกระทบของวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อความอยู่ดีมีสุขของครอบครัว การเผชิญปัญหาของครอบครัว ความเครียด และความสุขของผู้สูงอายุไทยในครอบครัวเปราะบาง และแนวทางการส่งเสริมการดำเนินชีวิตวิถีใหม่
คำสำคัญ:
โควิด-19, ผู้สูงอายุ, ครอบครัวเปราะบาง, ความอยู่ดีมีสุข, ความทุกข์, ความสุขบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงคุณภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาแบบ Mixed method วัตถุประสงค์ของการศึกษาเชิงคุณภาพเพื่ออธิบายประสบการณ์การเผชิญปัญหาของครอบครัว ความเครียด และความสุขของผู้สูงอายุในครอบครัวเปราะบาง ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ผู้ให้ข้อมูล 10 คน คือผู้สูงอายุ 60-69 ปี ที่เป็นตัวแทนครอบครัวละ 1 คน จาก 10 ครอบครัว 3 แบบคือ ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว ผู้สูงอายุอยู่กับคู่สมรส และผู้สูงอายุที่เลี้ยงดูหลานในครอบครัวข้ามรุ่น ใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลด้วย content analysis ผลการวิจัยพบ 4 themes กับ 7 subthemes ดังนี้ 1) ความสุขของปู่ย่าตายาย (รักและห่วงใยหลานมากกว่าตัวเอง, “Unconditional Love”) 2) การดูแลพ่อแม่สูงอายุของลูก (เทคโนโลยีสานใยพ่อแม่ลูก, อิทธิพลของภาวะเศรษฐกิจต่อบทบาทลูก) 3) ประสบการณ์ชีวิตต่อการปรับตัวของผู้สูงอายุ (ยอมรับสถานการณ์, สัมพันธภาพในครอบครัว, “วิกฤติเป็นโอกาส”), และ 4) ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับภาวะวิกฤติ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุในครอบครัวเปราะบาง แม้เผชิญภาวะวิกฤติจากการระบาดของโรคCOVID-19 แต่ยังสามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความสุขได้ด้วยมุมมองทางบวก สัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ควรนำแนวทางการปรับตัวแบบนี้ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ และควรมีการศึกษาในกลุ่มผู้สูงอายุเปราะบางอื่นๆต่อไป เพื่อพิสูจน์และส่งเสริมการนำไปใช้ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุเปราะบางกลุ่มอื่นๆอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา. (2565). รายงานสรุปประเด็นการเสวนา “ถอดบทเรียนจากวิกฤติ COVID-19 ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ”. สํานักกรรมาธิการ 1 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
จันทมา ช่างสลัก. (2566). iStrong Mental health. https://www.istrong.co/single-post/social-support.
พัณณ์ปภพ ปิยรัตนวรสกุล. (2563). ความกตัญญูกตเวทีในฐานะหน้าที่ต่อบุพการีกับสังคมไทย. [วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. TU Digital Collection. https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:190009
ปราโมทย์ ประสาทกุล (บรรณาธิการ). (2566). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2565. อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง.
มณี อาภานันทิกุล, รุจา ภู่ไพบูลย์, และกุสุมา คุววัฒนสัมฤทธิ์. (2558). การวิเคราะห์และบูรณาการดัชนีชี้วัดสุขภาพพอเพียงกับแนวคิด ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. วารสารพยาบาลศาสตร์, 30(1), 41-57.
ลัดดา แสนสีหา, จินตนา ลี้ละไกรวรรณ, นิตยา จันทบุตร, ศรินรัตน์ จันทพิมพ์, ทิพย์สุดา ธรรมลาภากุล, และอรุณี สุวรรณโชค. (2566). ภาวะสุขภาพและจิตสังคมของผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพังในชุมชน. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ, 46(1), 114-127.
ศศิพัฒน์ ยอดเพชร, และธีระ สินเดชารักษ์ (บรรณาธิการ). (2567). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทยพ.ศ. 2566. กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
ศุทธิดา ชวนวัน, ภัทราพร ตาสิงห์, กัญญา อภิพรชัยสกุล, และกาญจนา เทียนลาย. (2563). ผู้สูงอายุอยู่อย่างโดดเดี่ยว (แต่) ไม่เดียวดาย. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล, วิระวรรณ ตันติพิวัฒนสกุล, วนิดา พุ่มไพศาลชัย, กรองจิตต์ วงศสุวรรณ, และราณี พรมานะรังกุล. (2545). เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย โครงการจัดทำโปรแกรมสำเร็จรูปในการสำรวจสุขภาพจิตในพื้นที่ ปี พ.ศ.2545. โรงพยาบาลสวนปรุง.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2566).โครงสร้างครอบครัวไทย. https://www.the101.world/category/projects/thaihealthx101/
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2565). การสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2564. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2560). การสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2557. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.
อภิญญา ตันทวีวงศ์. (2565). แก่แบบสบาย สูงวัยแบบสง่า ตามหาระบบบริการสุขภาพที่ดีในยุค “สังคมสูงวัย”. วิน-วิน ดิจิตอลพริ้นติ้ง.
Balthip, K., Phoomchaiya, S., Nudla, P., Suwanruangsri, S., Lanwong, T., Kitrenu, P., Butimal, P., & Songwathana, P. (2025). “Living with wisdom and compassion”: A grounded theory of enhancing harmony in the lives of older Thai people during the COVID-19 pandemic. Pacific Rim International Journal of Nursing Research,29(2), pp.246-259. https://doi.org/10.60099/prijnr.2025.270708
Braun, V., & Clarke, V. (2006). Using thematic analysis in psychology. Qualitative Research in Psychology, 3(2), 77–101.
Jensen, T. (2025). “Here’s why grandparents seem to love their grandchildren more than their own kids” https://everymum.ie/my-family/heres-why-grandparents-seem-to-love-their-grandchildren-more-than-their-own-kids/
Klein, A., & Raypole, C. (2020). What’s (Unconditional) love got to do with it? https://www.healthline.com/health/relationships/unconditional-love.
Phuphaibul R, Watanasak S, Thiempathom W, Jitramontree N, Sinsuksai N, Yusamran C, Youngpradith A, Arpanantikul M, Maruo S.J, Khuwawattanasumrit K, Phusri R, Thungsan S, & Rujakornkul V. (2010). Project report: Development of sufficiency health in community under the principle of sufficiency economy philosophy. Ramathibodi School of Nursing. (in Thai).
Tekhanmag, K. (2009). Factors related to behavior of leading life in line with the philosophy of sufficiency economy by households: The case study of Lopburi Province. [Master’s thesis, National Institute of Development Administration].
Wadensten, B. (2007). The Theory of Gerotranscendence as Applied to Gerontological Nursing—Part I. International Journal of Older People Nursing, 2, 289-294. https://doi.org/10.1111/j.1748-3743.2007.00085.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล ซึ่งดำเนินการโดยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล หรือวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว