Archives - Page 2
-
มกราคม - เมษายน
Vol. 35 No. 1 (2557)ในปี พ.ศ.2558 ที่จะมาถึงนี้เป็นปีแรกของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่จะร่วมกันก้าวเข้าสู่ความเป็น “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือที่รู้จักกันในนาม AEC (ASEAN Economic Community) ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทยย่อมไม่เพียงแต่ทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเท่านั้น แต่ความร่วมมือดังกล่าวยังเอื้อต่อการโยกย้ายแรงงาน การเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมทั้งส่งผลต่อระบบบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งรายล้อมด้วยประเทศที่อาจกล่าวได้ว่ามีระบบการแพทย์และสาธารณสุขที่ด้อยกว่า ด้านหนึ่งนั้นเป็นโอกาสสำาหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง นำามาซึ่งรายได้ของประเทศ แต่อีกด้านก็อาจนำามาซึ่งปัญหาการให้บริการและค่าใช้จ่ายของประเทศด้วยเช่นกัน ในวารสารฉบับนี้ “สุวารี และคณะ” ได้ทบทวนการมารับบริการของผู้ป่วยต่างชาติที่ไม่ใช่สัญชาติไทยในโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เพื่อคาดการณ์แนวโน้มและการบริหารจัดการในอนาคต ประเด็นที่น่าสนใจและอาจเป็นปัญหาไม่เพียงแต่แรงงานข้ามชาติเท่านั้น ยังรวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ต้องการบริการทางการแพทย์ที่ดีกว่า นอกจากนั้นยังพบว่าผู้ป่วยชาติตะวันตกก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามตัวเลขการเรียกเก็บบริการได้กลับสวนทางกัน ถึงแม้ว่าสัดส่วนนี้อาจจะดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับรายรับรวมของโรงพยาบาลแต่ก็เป็นอีกภาระหนึ่งแน่นอน ยังไม่รวมถึงปัญหาความคาดหวังต่อการบริการอีกด้วย แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้คงไม่เพียงเกิดขึ้นกับสรรพสิทธิประสงค์เท่านั้นแต่เป็นโรงพยาบาลจังหวัดที่อยู่ชายแดนอื่นเช่นกัน
สรรพสิทธิเวชสารฉบับนี้นับได้ว่าเป็นความพยายามของกองบรรณาธิการในการจัดทำาวารสารให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด แน่นอนว่ายังอาจมีความล่าช้าอยู่บ้าง แต่ก็นับได้ว่าเป็นผลจากการทำางาน รวมทั้งผู้นิพนธ์หลายๆ ท่านที่ยังคงไว้วางใจส่งเรื่องมาเพื่อตีพิมพ์ ซี่งบรรณาธิการก็ต้องขอขอบคุณไปยังทุกท่านด้วย
-
มกราคม - ธันวาคม
Vol. 34 No. 1-3 (2556)“เรายังอยู่บนเส้นทางของการปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนา อุปสรรคและปัญหาเป็นสิ่งที่เราต้องก้าวผ่านไปให้ได้” ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของกองบรรณาธิการยังเป็นเช่นนี้ ถึงแม้ว่ายังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องเวลา ความล่าช้า และความผิดพลาด
ก่อนอื่น บรรณาธิการต้องขออภัยท่านผู้อ่านและเจ้าของเรื่อง (นพ.ธวัชชัย ทองประเสริฐ - ภาวะ extramedullary hematopoiesis ของบริเวณไซนัสในผู้ป่วยธาลัสซีเมีย) เนื่องจากเกิดความผิดพลาดในการ พิมพ์สรรพสิทธิเวชสารฉบับที่ผ่านมา (ปีที่ 33 ฉบับที่ 1-3 พ.ศ.2555 หน้าที่ 65) ทำาให้ตารางที่ 1 ในบทความไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ กองบรรณาธิการได้นำาเสนอตารางที่ถูกต้องไว้ในหน้าถัดไปแล้ว สำาหรับท่านที่ค้นหาบทความดังกล่าวจากอินเตอร์เน็ตนั้น ทางกองบรรณาธิการได้แก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวก่อนที่จะเผยแพร่แล้ว
สำหรับในฉบับนี้ ท่านผู้อ่านจะเห็นความหลากหลายของเนื้อหาบทความ ทั้งด้านการแพทย์สาธารณสุข และวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของวารสารเราที่เปิดกว้างเพื่อการนำาเสนอองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสาธารณสุขให้มากที่สุด ประเด็นของเกมออนไลน์และการสูบบุหรี่ในวัยรุ่นหญิงที่ดูเหมือนว่าจะมีการกล่าวถึงและให้ความสนใจ แต่การให้ความสำาคัญและการจัดการก็อาจจะยังไม่เข้มข้นมากเท่าที่ควร หรือการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างต่อเนื่องในผู้หญิงก็ดูจะไม่ได้รับการสนับสนุนหรือมีแนวทางในทางปฏิบัติที่ชัดเจน หวังไว้ว่าเนื้อหาบทความดังกล่าวจะกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องได้ให้ความสำาคัญเพิ่มมากขึ้น เพื่อการเฝ้าระวังและสุขภาพที่ดีของประชาชน -
มกราคม - ธันวาคม
Vol. 32 No. 1-3 (2554)สรรพสิทธิเวชสารปีที่ 32 ประจำาปี 2554 นี้ยังคงเป็นฉบับรวม 1-3 เช่นกับฉบับก่อนหน้านี้ เนื่องจากปัญหาการดำาเนินงานของกองบรรณาธิการเอง รวมทั้งในฉบับหน้า (ปีที่ 33) ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสำหรับฉบับปีที่ 33 ที่จะตามมานั้น ได้มีการปรับเปลี่ยนกองบรรณาธิการและฝ่ายจัดการ เพื่อปรับปรุงกระบวนการดำาเนินงานทั้งหมดและเพื่อพัฒนาคุณภาพของวารสาร
ในฉบับนี้มีรายงานวิจัยที่น่าสนใจที่ศึกษาปัญหาทางคลินิก (โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย) โดยใช้มุมมองทางด้านเพศภาวะ (gender) ข้อค้นพบที่ได้ก็แสดงให้เห็นความแตกต่างของการรับรู้เรื่องอาการแสดงของโรคในเพศหญิง เนื่องจากบทบาททางเพศภาวะ (gender role) ซึ่งส่งผลถึงการดูแลตนเองและการแสวงหาการรักษา รวมทั้งอาจส่งผลต่อแนวทางการวินิจฉัยของแพทย์ด้วย การศึกษาในมุมมองด้านเพศภาวะในอีกหลายภาวะ/โรคจึงน่าจะประเด็นที่ควรได้รับความสนใจจากผู้ที่เกี่ยวข้องทางด้านคลินิก เพื่อประโยชน์ต่อแนวทางและผลการรักษาที่แตกต่างกันระหว่างเพศ
ส่วนบทความพิเศษอีกสองเรื่องก็เป็นการทบทวนองค์ความรู้ในเรื่องมะเร็งท่อน้ำาดี ซึ่งยังคงเป็นปัญหาระดับต้นๆ ของประชากรในภาคอีสาน รวมทั้งแนวทางของกระบวนการพยาบาลสำาหรับผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมอง ซึ่งก็เป็นภาวะโรคที่ยังคงมีอุบัติการณ์สูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งภาวะเรื้อรังของรอยโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา ทั้งสองประเด็นก็เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่ควรได้รับการทบทวนและพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
