ผลของสถานการณ์จำลอง “Meet the PBRI President” ต่อความรู้ในการป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในนักศึกษาสถาบันพระบรมราชชนก

ผู้แต่ง

  • เพ็ญพรรณ พิทักษ์สงคราม วิทยาลัยพยาบลบรมราชชนนี ชลบุรี คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ณรงค์ ใจเที่ยง วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • วิชัย เทียนถาวร สถาบันพระบรมราชชนก
  • ดุสิต สกุลปิยะเทวัญ กองกิจการนักศึกษา สถาบันพระบรมราชชนก
  • จุฬารัตน์ ห้าวหาญ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

สื่อการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง, การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, นักศึกษาสถาบันพระบรมราชชนก

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลองชนิดสองกลุ่มไม่เท่ากันแบบวัดภายหลังครั้งเดียวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของสถานการณ์จำลอง “Meet the PBRI President” ต่อความรู้ในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขและสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก จำนวน 2,260 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง  คือ สื่อการสอนที่เป็นสถานการณ์จำลองเรื่องการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินกิจกรรม 90 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามความรู้ในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบากเท่ากับ 0.87 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยความรู้ฯ ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 55.04 มีความรู้ในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในระดับสูง (M = 15.21, SD = 3.86) ซึ่งกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรม “Meet the PBRI President” แบบเผชิญหน้ามีคะแนนเฉลี่ยความรู้ฯ มากกว่ากลุ่มที่เข้าร่วมแบบออนไลน์และกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p <.001 สรุปผลการศึกษาได้ว่าการใช้สื่อการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองมีประสิทธิผลต่อการเพิ่มความรู้เรื่องการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโดยเฉพาะในกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรมแบบเผชิญหน้า จึงควรประยุกต์ใช้กับการให้ความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในหัวข้ออื่น ๆ รวมถึงการพัฒนาสื่อการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองให้เหมาะสมต่อการเรียนรู้แบบออนไลน์ เพื่อให้สะดวกต่อการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และได้ประสิทธิผลเช่นเดียวกันกับการเรียนแบบเผชิญหน้าต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กมลรัตน์ เทอร์เนอร์, ศุกร์ใจ เจริญสุข, พิศิษฐ์ พลธนะ, พรฤดี นิธิรัตน์, และ จุฬารัตน์ ห้าวหาญ. (2565). กรอบวิจัยข้อเสนอเชิงนโยบายในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยแนวคิด สบช. โมเดล (PBRI Model) เชิงบูรณาการกับพันธกิจอุดมศึกษาสู่ชุมชนสุขภาวะ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 5(3), 204-208.

ชาติ ไทยเจริญ, และ นันธิยา ไทยเจริญ. (2563). กระบวนการเรียนรู้ตามสภาพจริง: ประสบการณ์จากการนำมาใช้ในการสอนนักศึกษาพยาบาล. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9: วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัย สิ่งแวดล้อม, 14(34), 259-270.

ชาญวิทย์ คำเจริญ, และ ขวัญหทัย กวดนอก. (2566). การพัฒนาปฏิบัติการฟิสิกส์พื้นฐานด้วยการใช้สื่อจำลองโต้ตอบเสมือนจริง. วารสารบรรณศาสตร์ มศว., 16(2), 51-61.

บุญชม ศรีสะอาด. (2539). การแปลผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า. วารสารวัดผลการศึกษา, 2(1), 64-70.

ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์. (2558). การจัดการเรียนการสอนแพทยศาสตร์ด้วยสถานการณ์จำลอง (Simulation Based Medical Education). เวชบันทึกศิริราช, 8(1), 39-46.

วิชัย เทียนถาวร, และ ณรงค์ ใจเที่ยง. (2565).บทบาทการดําเนินงานการผลิตบัณฑิตด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพในทศวรรษหน้าของสถาบันพระบรมราชชนก.วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 5(1), 236-246.

สุปรีชา แก้วสวัสดิ์, อรฤทัย อับดลหละ, และ นเรศักดิ์ แก้วห้วย. (2563). การวิจัยกึ่งทดลอง: งานประจำสู่การวิจัยกึ่งทดลอง สำหรับนักสาธารณสุข. วารสารสมาคมวิชาชีพสุขศึกษา, 35(1), 30-39.

สุพัตรา ศรีวณิชชากร. (2565). การจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในประเทศไทยและความท้าทายของ หน่วยบริการปฐมภูมิ. วารสารระบบบริการปฐมภูมิและเวชศาสตร์ครอบครัว, 4(2), 4-7.

สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ, กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข. (2564). คู่มือกระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ. บริษัท อาร์ เอ็น พี พี วอเทอร์ จำกัด.

อัศนี วันชัย, จิตติพร ศรีษะเกต, และ วิชัย เทียนถาวร. (2566). การประยุกต์ใช้ปิงปองจราจรชีวิต 7 สีในการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง: การทบทวนขอบเขตงานวิจัย. วารสารวิจัยการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 15(2), e267915.

Mattout, S. K., Shah, B. M., Khan, M. M., Mitwally, N. A., Al Aseri, Z. A., & Yousef, E. M. (2023). Realistic simulation case scenario as a vertical integration teaching tool for medical students: A mixed methods study. Journal of Taibah University Medical Sciences, 18(6), 1536.

Nicki, M., Huber, S.A., Sommerhoff, D., Codrenu, E., Ufer, S., & Seidel, T. (2022). Video-based simulations in teacher education: The role of learner characteristics as capacities for positive learning experiences and high performance. International Journal of Educational Technology in Higher Education, 19(45), https://doi.org/10.1186/s41239-022-00351-9

Roth, G. A., Abate, D., Abate, K. H., Abay, S. M., Abbafati, C., Abbasi, N., ... & Borschmann, R. (2018). Global, regional, and national age-sex-specific mortality for 282 causes of death in 195 countries and territories, 1980–2017: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2017. The lancet, 392(10159), 1736-1788.

Steinert, Y., Mann, K., Anderson, B., Barnett, B. M., Centeno, A., Naismith, L., ... & Dolmans, D. (2016). A systematic review of faculty development initiatives designed to enhance teaching effectiveness: A 10-year update: BEME Guide No. 40. Medical teacher, 38(8), 769-786.

Taha, A. A., Jadalla, A., Bin Ali, W., Firkins, J., Norman, S., & Azar, N. (2021). Structured simulations improves students’ knowledge acquisition and perceptions of teaching effectiveness: A quasi‐experimental study. Journal of clinical nursing, 30(21-22), 3163-3170.

Zulkosky, K., Minchhoff, D., Dommel, L., Price, A., & Handzlik, B. M. (2021). Effect of repeating simulation scenarios on student knowledge, performance, satisfaction and self-confidence. Clinical Simulation in Nursing, 55, 27-36.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-24

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย