ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล ในโรงพยาบาลแอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยเชิงความสัมพันธ์นี้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารจัดการแบบการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล และการสนับสนุนจากผู้นำต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 223 คน เลือกโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นจากบุคลากรประจำที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาล เก็บข้อมูลระหว่าง เดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม พ.ศ. 2555 เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถาม มี 6 ส่วน ได้แก่ 1) ข้อมูลส่วนบุคคล 2) เจตคติต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล 3) การรับรู้ในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล 4) ความรู้ 5) การสนับสนุนจากผู้นำ และ 6) การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล ซึ่งได้ผ่านการตรวจความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน และหาความเที่ยงของแบบสอบถามส่วนที่ 2, 3, 4 และ 5 ได้ค่าเท่ากับ 0.87,0.88, 0.94 และ 0.96 ตามลำดับ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุ

ผลการวิจัยพบว่า เจตคติต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล การรับรู้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล ความรู้แนวคิด กระบวนการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลของบุคลากร การสนับสนุนจากผู้นำและการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรอยู่ในระดับปานกลาง การสนับสนุนจากผู้นำสามารถทำนายการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลเกษม ราษฎร์ได้ร้อยละ 39.5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

The factor affecting the participation management of hospital quality improvement at a private hospital in Bangkok.

Saisanan Na Ayuthya, J., Monaiyapong, P. S., & Phanusophon, A.

This correlational descriptive study aimed to study the factors affecting the participation management of hospital quality improvement including attitude, perception, and leader support to participate in quality improvement at Kasemrad Bangkae hospital. The sample of 223 personnel was selected using a stratified random sampling. The data were collected during November to December 2012. The research instrument was a questionnaire which consisted of six parts: 1) personal data 2) attitude 3) perception 4) knowledge 5) leader support and 6) participation management. Its content validity was approved by a group of five experts. The reliability coefficients of part 2 to 5 were 0.87, 0.88, 0.94, and 0.96 repectively. The average, standard deviation, and multiple regression analysis were used in data analysis.

Results of this study showed that the attitude, perception, knowledge, leader support and the participation management of hospital quality improvement were at the moderate level. Only leader support could predict the participation management of hospital quality improvement. The predictor accounted for 39.5 % at p < .05.