ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกัน โรคหลอดเลือดสมองและการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยง

Main Article Content

titawadee singco
ศากุล ช่างไม้
ทิพา ต่อสกุลแก้ว

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


 


วัตถุประสงค์: เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบพฤติกรรมและการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงในกลุ่มทดลองก่อนและหลังได้รับโปรแกรม          


 


วิธีการดำเนินการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง แบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มละ 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ส่วน คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล  แบบประเมินพฤติกรรมและการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมและการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยง ค่าความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 1.00  ทั้งสองฉบับ และค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของ
ครอนบาคเท่ากับ 0.83 และ 0.70 วิเคราะห์ข้อมูลการเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองโดยใช้สถิติ Independent t-test วิเคราะห์ข้อมูลการเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยใช้สถิติ Repeated measures ANOVA


 


ผลการวิจัย: กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (และค่าเฉลี่ยการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  (F1,64 =143.78,  p<.05)


 


สรุปผลการวิจัย: โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 


 


 

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

World Stroke Organization (WSO). World stroke organization strategy 2016-2020[Internet].2018

[cited 2019 October 10].Available from:https://www.world stroke.org /images/WSO_strategy_

CONCISE_FINAL.pdf.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำ ปี 2561 สำนักโรคไม่ติดต่อ

กรมควบคุมโรค. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2562.

ศูนย์วิชาการโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ชุตินฺธโร อุทิศ. สถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. กรุงเทพฯ:

โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ชุตินฺธโร อุทิศ; 2561.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรค

ไม่ติดต่อระดับชาติ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564). กรุงเทพฯ:บริษัท อิโมชั่น อาร์ต จำกัด; 2560.

Stretcher VJ, Rosenstock IM. The health belief model. In:BaumA, editor. Cambridge handbook

of psychology, health and medicine. Cambridge, UK: Cambridge University Press; 1997. p. 113-7.

สุริยา หล้าก่ำ, ศิราณีย์ อินธรหนองไผ่. ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพและ

พฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมือง จังหวัด

ร้อยเอ็ด.วารสารพยาบาลตำรวจ 2560; 9: 85-94.

กษมา เชียงทอง. ความสัมพันธ์ระหว่างแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพการรับรู้อาการเตือนและ

พฤติกรรมการจัดการโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มเสี่ยงหลอดเลือดสมอง อำเภอดอยสะเก็ดจังหวัด

เชียงใหม่[วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต].เชียงใหม่: คณะสาธารณสุขศาสตร์

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2554.

Osamor PE, Ojelabi OA. Health belief model and hypertension treatment compliance [Internet].2017

[cited 2018 October 7]. Available from:https://www.ukessays.com/essays/health-and-social-care/

health-belief-model hypertension-treatment.

Khorsandi M, Fekrizadeh Z, Roozbahani N. Investigation of the effect of education based on the health

belief model on the adoption of hypertension-controlling behaviors in the elderly. Clin Interv Aging

; 12:233-40.

กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข. คู่มือความรู้เรื่องอัมพาตสำหรับประชาชน. กรุงเทพฯ:

สำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ; 2550.

สุริยา หล้าก่ำ, ศิราณีย์ อินธรหนองไผ่, อยุทธ์ จินตะรักษ์. การพัฒนารูปแบบการป้องกันโรค

หลอดเลือดสมองในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด.วารสารวิจัยและ

พัฒนาระบบสุขภาพ 2560; 10: 282-91.

Faul F, Erdfelder E, Lang AG, Buchner A. G*Power 3: A flexible statistical power analysis program

for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behav Res Methods 2007; 2:175-91.

อรุณ จิรวัฒน์กุล. การออกแบบแบบสอบถามสำหรับงานวิจัย. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์; 2556.

สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางเวชปฏิบัติภาวะสมองเสื่อม (ฉบับ

สมบูรณ์ 2557).กรุงเทพฯ: บริษัท ธนาเพรส จำกัด; 2557.

รุจิรา ดวงสงค์, ชลธิรา กาวไธสง. ผลของโปรแกรมพัฒนาพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงโรงพยาบาลชุมพวง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา. ศรีนครินทร์เวชสาร

; 29: 295-304.

Yue Z, Li C, Weilin Q,Bin W. Application of the health belief model to improve the understanding of

antihypertensive medication adherence among Chinese patients. Patient Educ Couns 2015;98:669-73.

อรกมล เพ็งกุล, นรลักขณ์ เอื้อกิจ, ปชาณัฏฐ์ ตันติโกสุม. ผลของโปรแกรมการรับรู้ประโยชน์ของการ

รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดต่อความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนลิ้น

หัวใจ. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก 2557; 25: 34-48.

ธาวินี ช่วยแท่น. ศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ประโยชน์และการรับรู้การจัดการอุปสรรคต่อ

ความร่วมมือในการรับประทานยาของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลังได้รับการขยายหลอดเลือด

โคโรนารี่[วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต].กรุงเทพฯ:คณะพยาบาลศาสตร์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2557.

Joho AA. Factors affecting treatment compliance among hypertension patients in three district

hospitals - dar es Salaam[Thesis of Master of Nursing Science]. Muhimbili:MuhimbiliUniversity of

Health and Allied Sciences;2012.