สภาวะสุขภาพและปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาวะสุขภาพในพนักงานรักษาความสะอาดในเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาสภาวะสุขภาพและปัจจัยที่ส่งผลต่อการสภาวะสุขภาพในพนักงานรักษาความสะอาดเขตลาดพร้าวในกรุงเทพมหานคร
วิธีการดำเนินการวิจัย: เป็นการศึกษาเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างคือพนักงานรักษาความสะอาดประจำทั้งหมดในเขต เข้าทำงานอย่างน้อยเป็นเวลา 2 เดือนจำนวน 496 คน เก็บข้อมูลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไป ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะการทำงาน ข้อมูลด้านสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลตนเองและข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจสุขภาพ และขอความยินยอมเข้าร่วมโครงการวิจัยดำเนินการตรวจสุขภาพ ตรวจวัดความดันโลหิต และ ตรวจระดับน้ำตาลและไขมันทางหลอดเลือดดำ โดยพยาบาลวิชาชีพ คำนวณสถิติ ความถี่ ค่าร้อยละ วิเคราะห์ขนาดความสัมพันธ์โดยใช้ odds ratio และ 95% confidence interval ทดสอบที่ระดับนัยสำคัญ p <0.05
ผลการวิจัย: ได้รับแบบสอบถามกลับจากพนักงานรักษาความสะอาดในเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานครจำนวน 422 คน คิดเป็นร้อยละ 85.1 โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 60.9 อายุเฉลี่ย44.95+ 9.53 ปี ระดับการศึกษาสูงสุดเฉลี่ยระดับประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 58.6 เคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัย คิดเป็นร้อยละ39.8 ส่วนใหญ่จะได้รับการอบรมในช่วงปีพ.ศ.2550-2560 จากหน่วยราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร คิดเป็นร้อยละ 78.9 สามารถใช้อุปกรณ์ป้องกันครบตามแต่ละประเภทการปฏิบัติงานเป็นประจำคิดเป็นร้อยละ34.8 พฤติกรรมทางสุขภาพ พบสูบบุหรี่ คิดเป็นร้อยละ32.1 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คิดเป็นร้อยละ32.7 ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี คิดเป็นร้อยละ 94.7 มากกว่าครึ่งได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก พฤติกรรมการดูแลตนเอง อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ69.2 มีทัศนคติในการดูแลสุขภาพดี คิดเป็นร้อยละ95.7 พฤติกรรมการดูแลตนเอง อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ69.2และพนักงานรักษาความสะอาดผู้ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ พบว่ามีค่าดัชนีมวลกายปกติ คิดเป็นร้อยละ38.6 ค่าความดันโลหิตปกติ คิดเป็นร้อยละ43.1 ระดับน้ำตาลหลังอดอาหารปกติ คิดเป็นร้อยละ 49 ค่าไขมันปกติ คิดเป็นร้อยละ18.6 สภาวะสุขภาพเป็นโรคไม่ติดต่อ คิดเป็นร้อยละ28.5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสภาวะสุขภาพป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อในพนักงานรักษาความสะอาดได้แก่ ระดับการศึกษา (odds ratio 2.15, 95% CI 1.13- 4.09 ) รายได้ และพฤติกรรมการดูแลตนเอง (p<0.05)ส่วนปัจจัยที่ไม่พบว่าเกี่ยวข้อง ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การตรวจสุขภาพประจำปีและทัศนคติการดูแลสุขภาพ
สรุป: จากการศึกษาพบว่า พนักงานรักษาความสะอาดในกรุงเทพมหานคร มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพรวมถึงการป้องกันตนเองระหว่างการทำงานไม่เพียงพอ รวมถึงทัศนคติต่อการดูแลสุขภาพระยะยาว สามารถปรับเปลี่ยนได้จากการให้ความรู้ จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการและส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองขณะปฏิบัติงานและประเมินติดตามอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลพบว่าพนักงานรักษาความสะอาดยังได้รับการอบรมไม่ครบถ้วน การใส่ชุดป้องกันตนเองยังมีอัตราน้อย และผลการตรวจสุขภาพพบผิดปกติเป็นส่วนใหญ่ พบปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาวะสุขภาพที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ได้แก่ ทัศนคติการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลตนเอง ดังนั้น ควรมีการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองขณะปฏิบัติงาน ส่งเสริมทัศนคติและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ดี สร้างโปรแกรมการดูแลสุขภาพ และโรคหรือความเสี่ยงที่พบอย่างต่อเนื่อง
คำสำคัญ: สภาวะสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลตนเอง โรคไม่ติดต่อ NCDs พนักงานรักษาความสะอาด
Article Details
References
เพชรรัตน์ กิจสนาโยธิน, เมตตา ลิมปวราลัย, อัมพวัน พุทธประเสริฐ. สภาพแวดล้อมและสุขภาพของ
พนักงานเก็บขยะในหน่วยเทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต].
พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2550.
ศราวุฒิ แสงคำ, จำลอง อรุณเลิศอารีย์. สิ่งคุกคามสุขภาพในพนักงานเก็บขนมูลฝอยและแนวทาง
การป้องกัน. ศรีนครินทร์เวชสาร 2562; 34: 649-57.
World Health Organization. Protecting workers’ health[Internet]. 2017[cited 2016 Jun 18].
Available from:http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs389/en/.
ฐิติรัตน์ อำไพ. วิถีชีวิตการทำงานกับภาวะสุขภาพอนามัยของผู้มีอาชีพเก็บขยะ: กรณีศึกษา ชุมชนกองขยะ
หนองแขม [วิทยานิพนธ์ปริญญาพัฒนาแรงงานและสวัสดิการมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์; 2547.
Mervat AR, Ashraf AE, Tamer MH. Awareness of occupational health hazards among streetsweepers
and garbage collectors at Beni-Suef city, Egypt; across-sectional study. Bull High Inst Publ Health
;39: 654-68.
Dall’Agnol CM, FernandesII C. Health and self-care among garbage collectors: work experiences in a
recyclable garbage cooperative. Rev Latino-Am Enfermagem 2007; 15: 729-35.
Health System Research Institute(HSRI). Determinants of health[Internet]. 2004[cited 2020 Oct18].
Available from:http://164.115.27.97/digital/files/original/82b3617ac5b4ac2dce9ec6fb798de0d0.pdf.
นิภาพร เอื้อวัณณะโชติมา. ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพและการสร้างเสริมสุขภาพประชากร. วารสาร
วิชาการสาธารณสุข 2559; 25: 147-56.
ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฎ์. สถานการณ์การดำเนินงานด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ(NCDs).
กรุงเทพฯ: สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2561.
ศูนย์บริการสาธารณสุข66 ตำหนักพระแม่กวนอิมโชคชัย4 กรุงเทพมหานคร. รายงานการตรวจสุขภาพ
ประจำปีข้าราชการและลูกจ้างสำนักงานเขตลาดพร้าว ประจำปี2560. กรุงเทพฯ: ศูนย์บริการ
สาธารณสุข66; 2560.
Buijs P, Gunnyeon B, Weel CV. Primary health care: what role for occupational health?. Br J Gen
Pract 2012; 62: 623-4.
บริสุทธิ์ ผึ่งผดุง. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง : ศึกษาเฉพาะกรณีเขตกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์
ปริญญาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาบัณฑิต(สังคมวิทยา)]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์;
อัฏฐพร ศรีฟ้า. บทบาทของผู้หญิงในการดูแลสุขภาพของชุมชน ครอบครัว และชุมชน ศึกษาเฉพาะกรณี
ชุมชนซอยพิพัฒน์2 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต].
กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2541.
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป
(ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ: สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย; 2558. หน้า 3-11.
Webber DZG, Mann S. Self-care in health: We can define it, but should we also measure it?. Self
Care 2013; 4: 101-6.
ศิริพรรณ ศิรสุกล. ภาวะสุขภาพของพนักงานเก็บขยะ:กรณีศึกษาเทศบาลในจังหวัดนครปฐม
[วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร; 2554.
วิภาดา ศรีเจริญ, นภาภรณ์ คำมงคล, ปาริสา สงสาร, มาโนชณ์ อุ่นจันทร์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ
ภาวะสุขภาพจิตของพนักงานเก็บขยะสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
[อินทอร์เน็ต]. 2559[เข้าถึงเมื่อ29 เม.ย. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://research.kpru.ac.th/sac/
fileconference/18392018-04-30.pdf.
โศรญา ปรักมานนท์. ภาวะสุขภาพของพนักงานเก็บขยะสังกัดเทศบาลในจังหวัดตรัง [วิทยานิพนธ์
ปริญญาสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต(สาธารณสุขชุมชน)]. ตรัง: วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร; 2559.
วิชัย เอกพลากร, บรรณาธิการ. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่5
พ.ศ.2557. นนทบุรี. อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2559. หน้า 1-283.
Centers for Disease Control and Prevention.Viral hepatitis[Internet]. 2020[cited 2020 Oct. 15].
Available from: https://www.cdc.gov/hepatitis/hbv/bfaq.htm.
Centers for Disease Control and Prevention.Tetanus[Internet]. 2020 [cited 2020 Oct 15]. Available
from: https://www.cdc.gov/vaccines/vpd/tetanus/index.html.
Cruvinel VRN, Marques CP, Cardoso V, Novaes MRCG, Araújo WN, Angulo-Tuesta A, et al. Health
conditions and occupational risks in a novel group: waste pickers in the largest open garbage dump in
Latin America. BMC Public Health2019; 19: 581.
Kuijer PP, Sluiter JK, Frings-Dresen MH. Health and safety in waste collection: Towards evidence-
based worker health surveillance. Am J Ind Med 2010; 53: 1040-64.
โฉมศิริ เดชารัตน์. คุณภาพชีวิตของพนักงานเก็บขยะ กรณีศึกษาภาคใต้ ประเทศไทย. วารสารความ
ปลอดภัยและสุขภาพ 2559; 9: 6-14.
นพวรรณ ดวงหัสดี. ภาวะสุขภาพและโภชนาการของครอบครัวเก็บขยะ ในชุมชนแออัดเมืองขอนแก่น.
วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ 2551; 2: 11-21.