ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปาก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
หลักการและเหตุผล: สภาวะสุขภาพช่องปากของเด็กนักเรียนอายุ 12 ปี พบปัญหาสำคัญ คือ โรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ การดูแลสุขภาพช่องปากช่วยลดการเกิดโรคได้ การส่งเสริมสุขภาพช่องปากมีความสำคัญป้องกันโรคในช่องปาก การนำแนวคิดความรอบรู้ด้านสุขภาพมาใช้กับโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปาก จะส่งผลต่อการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กนักเรียนได้
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปาก ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมสุขภาพช่องปาก และคราบจุลินทรีย์ ในเด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6
รูปแบบการศึกษา: การวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) และการวิจัยเป็นแบบสองกลุ่ม วัดผลก่อนและหลังดำเนินการ
วิธีการศึกษา: กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้งหมด 94 คน เป็นกลุ่มทดลอง 47 คน และกลุ่มควบคุม 47 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปาก ประกอบด้วย 1) ช่องปากแสนสนุก 2) รู้จักเลือกอาหารกันเถอะ 3) หาความรู้ เพื่อฟันของเรากันเถอะ 4) ดูแลฟันที่ฉันรัก 5) แปรงฟันสะอาดจัง 6) รู้ทันแน่นอน และ 7) กิจกรรมกระตุ้นการแปรงฟัน ระยะเวลาดำเนินการ 8 สัปดาห์ สถิตที่ใช้ คือ Wilcoxon matched pairs signed ranks test, Paired t-test, Mann-Whitney U test และ Independent t-test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการศึกษา: หลังทดลอง นักเรียนกลุ่มทดลองมีความรอบรู้สุขภาพช่องปากส่วนของความรู้ ความรอบรู้สุขภาพช่องปาก 6 ด้าน และพฤติกรรมสุขภาพช่องปาก มากกว่าก่อนการทดลอง และมากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) และคราบจุลินทรีย์ น้อยกว่าก่อนการทดลอง และน้อยกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.001)
สรุป: โปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปากนี้ ช่วยเพิ่มความรอบรู้สุขภาพช่องปาก พฤติกรรมสุขภาพช่องปาก และลดคราบจุลินทรีย์ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปากไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับพื้นที่
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศครั้งที่ 9 พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ : สามเจริญพาณิชย์ ; 2567.
ณัฐวุธ แก้วสุทธา, อังศินันท์ อินทรกำแหง, พัชรี ดวงจันทร์. ปัจจัยเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการดูแลอนามัย ช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น. วารสารพฤติกรรมศาสตร์ 2556;19(2):153-64.
Bernabe E, Marcenes W, Hernandez CR, Bailey J, Abreu LG, Alipour V, et al. Global, Regional, and National Levels and Trends in Burden of Oral Conditions from 1990 to 2017: A Systematic Analysis for the Global Burden of Disease 2017 Study. J Dent Res 2020;99(4):362-73. doi: 10.1177/0022034520908533.
ระบบคลังข้อมูลสุขภาพจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์. การสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากเขตสุขภาพที่ 9 และจังหวัด บุรีรัมย์ พ.ศ. 2560-2566. [อินเตอร์เน็ท]. [สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2565]. ค้นได้จาก:URL: https://hdc.moph.go.th/brm/public/standardsubcatalog/67f8b1657bc8c796274fb9b6ad5a701d.
Saccomanno S, De Luca M, Saran S, Petricca MT, Caramaschi E, Mastrapasqua RF, et al. The importance of promoting oral health in schools: a pilot study. Eur J Transl Myol 2023;33(1):11158. doi: 10.4081/ejtm.2023.11158.
จักรกฤษฏิ์ โพธิ์ศรี, ปารจรีย์ อับดุลลากาซิม, นิภา มหารัชพงศ์. ผลของโปรแกรมสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ 2567;17(2):197-210.
พรพิมล ชื่นตา, นิยม จันทร์นวล. ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปากและพฤติกรรมป้องกันโรคฟันผุของนักเรียน: กรณีศึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านหนองยางห้วยสะแบก จังหวัดยโสธร. [อินเตอร์เน็ท]. [สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2565]. ค้นได้จาก:URL: https://www.ubu.ac.th/web/files_up/00008f2023083114482321.pdf.
ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพ: เข้าถึง เข้าใจ และการนำไปใช้. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : อมรินทร์ ; 2561.
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้าน สุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สามเจริญพาณิชย์(กรุงเทพ) ; 2561.
ชินตา เตชะวิจิตรจารุ. ความรอบรู้ทางสุขภาพ: กุญแจสำคัญสู่พฤติกรรมสุขภาพและผลลัพธ์สุขภาพที่ดี. วารสารพยาบาลทหารบก 2561;19( Suppl 1):1-11.
Wanichsaithong P, Prasertsom P. Development and Validation of an Oral Health Literacy Measurement for Primary School Children in Thailand. Int J Dent 2022;2022:9161619. doi: 10.1155/2022/9161619.
กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลแคนดง. รายงานข้อมูลทันตสุขภาพของโรงพยาบาลแคนดง 2567. บุรีรัมย์ : กลุ่มงานทันตกรรม ; 2567. (เอกสารอัดสำเนา).
Bernard R. Fundamentals of biostatistics. 5th.ed. Duxbery : Thomson learning ; 2001.308
นิศานาถ ไกร. ประสิทธิผลของโปรแกรมทันตสุขศึกษาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันโรคฟันผุในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อําเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช. [วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต]. คณะสาธารณสุขศาสตร์. บัฌฑิตวิทยาลัย ; สุราษฎร์ธานี : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ; 2561.
เครือข่ายโรงเรียนฟันดี. สรุปผลการประเมินความรอบรู้และพฤติกรรมด้านช่องปาก [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 30พฤษภาคม 2567]. ค้นได้จากURL: https:schoolorahealth,anamai.moph.go.th/quizgame.
อนุพงษ์ สอดสี, นลินี ณ นคร, สังวรณ์ งัดกระโทก. การพัฒนาแบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย. วารสารวิจัย มข. สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ฉบับบัณฑิตศึกษา). 2563;8(1):52-64.
หยาดพิรุณ วังอะโศก. การศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรม ทันตสุขศึกษาต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากใน เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนในเขตตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่. [วิทยานิพนธ์ปริญญา สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. คณะสาธารณสุขศาสตร์, บัณฑิตวิทยา; พะเยา : มหาวิทยาลัยพะเยา ; 2560.
GREENE JC, VERMILLION JR. THE SIMPLIFIED ORAL HYGIENE INDEX. J Am Dent Assoc 1964;68:7-13. doi: 10.14219/jada.archive.1964.0034.
อรดี ไชยวงศ, เกศินี สราญฤทธิชัย. ผลของโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากต่อการป้องกันโรคเหงือกอักเสบของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วิทยาสารทันตสาธารณสุข. 2564;26:37-50.
วรางคณา สมนาม. ผลโปรแกรมทันตสุขภาพเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา. [วิทยานิพนธ์ปริญญา สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. คณะสาธารณสุขศาสตร์, บัณฑิตวิทยา; พะเยา : มหาวิทยาลัยพะเยา ; 2561.
Sørensen K, Van den Broucke S, Fullam J, Doyle G, Pelikan J, Slonska Z, et al. Health literacy and public health: a systematic review and integration of definitions and models. BMC Public Health 2012;12:80. doi: 10.1186/1471-2458-12-80.