การยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟันชนิดกลาสไอโอโนเมอร์และการเกิดฟันผุของฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่งหลังจากวัสดุหลุดของเด็กวัยเรียน งานออกหน่วยทันตกรรมโรงเรียนในเขตพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
หลักการและเหตุผล: ฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่งเป็นฟันซี่สำคัญที่มีบทบาทในการบดเคี้ยวและส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกรในเด็กวัยเรียน เนื่องจากมีหลุมร่องฟันลึกและทำความสะอาดได้ยาก จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดฟันผุ การเคลือบหลุมร่องฟันจึงเป็นวิธีทันตกรรมป้องกันที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินโครงการเคลือบหลุมร่องฟันในโรงเรียนผ่านหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ โดยเลือกใช้วัสดุชนิดกลาสไอโอโนเมอร์ (Fuji VII แบบ hand-mixed) แทนเรซิน เนื่องจากข้อจำกัดในการควบคุมความชื้น อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัสดุดังกล่าวในสภาพแวดล้อมจริง
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการยึดติดของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันกลาสไอโอโนเมอร์ในระยะเวลา 24 เดือน และอัตราการเกิดฟันผุภายหลังวัสดุหลุด
วิธีการศึกษา: เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบย้อนหลัง โดยใช้ข้อมูลจากแบบบันทึกการตรวจสุขภาพช่องปากและระบบ HosXP ของโรงพยาบาล กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กอายุ 6–12 ปี จำนวน 310 ราย ที่เคยได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่ง คัดเลือกโดยการสุ่มแบบง่าย วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่, ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา: พบอัตราการยึดติดของวัสดุร้อยละ 9.0 และอัตราการเกิดฟันผุหลังวัสดุหลุดร้อยละ 10.9 ซึ่งมีอัตราการยึดติดต่ำกว่าการศึกษาก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยที่อาจมีผลสอดคล้องกับการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟัน ได้แก่ เป็นการให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่โดยใช้เตียงสนาม และมีจำนวนผู้ช่วยข้างเก้าอี้ไม่ครบขณะทำหัตถการ
สรุป: การให้บริการเคลือบหลุมร่องฟันในการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ในเขตพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ มีอัตราการยึดติดของวัสดุร้อยละ 9.0 และพบอัตราการเกิดฟันผุภายหลังวัสดุหลุดร้อยละ 10.9
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานการผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ประเทศไทย พ.ศ. 2566. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี : อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์ ; 2567.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์. รายงานผลการดำเนินงานระบบข้อมูลสุขภาพ HDC (Standard Report Detail). [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2568]. ค้นได้จาก: https://hdc.moph.go.th/srn/public/standard-report-detail/88a6bba069c1619c2070477006d0c4b9
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์. รายงานข้อมูลมาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพ HDC. [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2568]. ค้นได้จาก: https://hdc.moph.go.th/srn/public/standard-report-detail/d36f6c38999d128132513933e36a848a
Ahovuo-Saloranta A, Forss H, Walsh T, Nordblad A, Mäkelä M, Worthington HV. Pit and fissure sealants for preventing dental decay in permanent teeth. Cochrane Database Syst Rev 2017;7(7):CD001830. doi: 10.1002/14651858.CD001830.pub5.
No authors listed. Evidence-based Clinical Practice Guideline for the Use of Pit-and-Fissure Sealants. Pediatr Dent 2016 Oct 15;38(5):120-36. PMID: 28206888
Prathibha B, Reddy PP, Anjum MS, Monica M, Praveen BH. Sealants revisited: An efficacy battle between the two major types of sealants - A randomized controlled clinical trial. Dent Res J (Isfahan) 2019;16(1):36-41. PMID: 30745917.
Antonson SA, Antonson DE, Brener S, Crutchfield J, Larumbe J, Michaud C, et al. Twenty-four month clinical evaluation of fissure sealants on partially erupted permanent first molars: glass ionomer versus resin-based sealant. J Am Dent Assoc 2012;143(2):115-22. doi: 10.14219/jada.archive.2012.0121.
Chen Xx, Liu Xg. Clinical comparison of Fuji VII and a resin sealant in children at high and low risk of caries. Dent Mater J. 2013;32(3):512-8. doi: 10.4012/dmj.2012-300.
Baseggio W, Naufel FS, Davidoff DC, Nahsan FP, Flury S, Rodrigues JA. Caries-preventive efficacy and retention of a resin-modified glass ionomer cement and a resin-based fissure sealant: a 3-year split-mouth randomised clinical trial. Oral Health Prev Dent 2010;8(3):261-8. PMID: 20848004
Rashed T, Alkhalefa N, Adam A, AlKheraif A. Pit and Fissure Sealant versus Fluoride Varnish for the Prevention of Dental Caries in School Children: A Systematic Review and Meta-Analysis. Int J Clin Pract 2022;2022:8635254. doi: 10.1155/2022/8635254.
Patil SS, Kontham UR, Kontham RK, Patil SS, Kamble SP. Fluoride release and fluoride-recharging ability of three different sealants. J Indian Soc Pedod Prev Dent 2020;38(3):247-52. doi: 10.4103/JISPPD.JISPPD_345_19.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์. ระบบข้อมูลสุขภาพ HDC จังหวัดสุรินทร์. [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 2 สิงหาคม 2567]. ค้นได้จาก: https://hdc.moph.go.th/srn/public/standard-subcatalog/ac4eed1bddb23d6130746d62d2538fd0.
โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จังหวัดสุรินทร์. ฐานข้อมูล HosXP: ข้อมูลทะเบียนผู้ป่วยย้อนหลัง 1 สิงหาค พ.ศ. 2563 – 31 กรกฎาคม พ.ศ.2567. สุรินทร์ : โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ; 2567. (เอกสารอัดสำเนา).
จีรศักดิ์ ทิพย์สุนทรชัย. การศึกษาเปรียบเทียบอัตราการคงอยู่และผลของการป้องกันฟันผุของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันชนิดกลาสไอโอโนเมอร์และชนิดเรซินในหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่จังหวัดบุรีรัมย์. วิทยาสารทันตสาธารณสุข. 2546;8(1):62-77.
กิตติชัย เพียรวัฒนา. ประสิทธิภาพของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันและอัตราการรอดของฟันกรามแท้ที่หนึ่งของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1–6 ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ปี 2554. นนทบุรี : คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ; 2554.
Haznedaroğlu E, Güner Ş, Duman C, Menteş A. A 48-month randomized controlled trial of caries prevention effect of a one-time application of glass ionomer sealant versus resin sealant. Dent Mater J 2016;35(3):532-8. doi: 10.4012/dmj.2016-084.