กิจกรรมการดูแล แรงจูงใจในการดูแล และความพึงพอใจในงานของผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างในการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุที่ติดเตียง, ผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้าง, กิจกรรมการดูแล, แรงจูงใจในการดูแล, ความพึงพอใจในงานบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) กิจกรรมการดูแลของผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างในการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง 2) แรงจูงใจที่เข้ามาทำงานของผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างในการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง และ 3) ความพึงพอใจในงานของผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างในการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง
การออกแบบการวิจัย: การวิจัยเชิงบรรยาย
การดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างให้การดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียงที่บ้านมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป จำนวน 36 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลแบบสอบถามกิจกรรมการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง แนวทางการสัมภาษณ์แรงจูงใจในการเข้ามาเป็นผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้าง และแบบสอบถามความพึงพอใจในงานการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยาย และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย: พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 69.4 ไม่ได้ผ่านการเตรียมความรู้จากหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ กิจกรรมการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียงทางด้านร่างกายประกอบด้วย กิจกรรมด้านกิจวัตรประจำวันเฉลี่ย 8.17 กิจกรรม กิจกรรมการดูแลเฉพาะเฉลี่ย 6.50 กิจกรรม กิจกรรมทางด้านจิตใจอารมณ์ และด้านสังคม แรงจูงใจในการเข้ามาทำงานเป็นผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้าง เกิดจากปัจจัยร่วมที่สำคัญคือ 1) ต้องการหารายได้ 2) มีความชอบในการดูแล 3) มีความผูกพัน และ 4) ต้องการความรู้และประสบการณ์ ตามลำดับ ผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับสูง ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจมากที่สุดคือ ความภาคภูมิใจในอาชีพ การอยู่ร่วมกัน และการดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลอยู่ในขณะนี้ ตามลำดับ ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ วันหยุดที่ได้รับสวัสดิการที่ได้รับ และรายได้ที่ได้รับ ตามลำดับข้อเสนอแนะ: ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ทีมสุขภาพควรมีการส่งเสริมให้ผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างได้รับการอบรมความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุที่ติดเตียง เพื่อตอบสนองความต้องการการดูแลที่ซับซ้อนของผู้สูงอายุที่ติดเตียง สนับสนุนปัจจัยที่ทำให้ผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างเกิดความพึงพอใจในงาน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2013. (in Thai)
2. Leelapattana W, Hathirat S. Working with caregiver burnout. [online] 2016. [cited 2016 June 15]. Avaliable from: https://www.dmthai.org/news_and_knowledge/1192 (in Thai)
3. Bureau of Health Promotion. Annual Report, Department of Health 2013. Nonthaburi: Planning Division of Department of Health; 2013. (in Thai)
4. Prasartkul P. Situation of the Thai elderly 2014. Bangkok: Amarin Printing & Publishing; 2014. (in Thai)
5. Artsanthia J, Kampraw P. Modality of care for the older adults in community. Journal of The Royal Thai Army Nurses 2014;5(13):123-27. (in Thai)
6. Yodpet S, Sombat L, Choktanawanich P, Sakdaporn T. Good models on the elderly care by family and
community in rural areas in Thailand. Bangkok: Health Sciences Research Institute; 2009. (in Thai)
7. Ngoichansri J, Kongtaln O. Development of continuing care for the home bound and bed bound elders in Phetchabun municipal community. [Master thesis]. KhonKaen: KhonKaen University; 2012. (in Thai)
8. Manorath P. Elderly: impact and social role of care. Boromarajonani College of Nursing, Uttaradit Journal
2013;5(2):98-103. (in Thai)
9. Sihapark S, Chuengsatiansup K, Tengrang K. The effects and caregiving burdens of older persons in long term care based on Thai culture. Bangkok: Health Systems Research Institute; 2014. (in Thai)
10. Sasat S. Elderly care assistant: formal caregiver and how to carry out quality assurance in Thailand. V.print
(1991) Co.,LTD; 2012. (in Thai)
11. Papangkorn R. Caregivers’ experience in caring for dependent elderly persons. [Master thesis]. Nakhon Pathom: Mahidol University; 2003.
12. Sasat S. (2010). Trends and direct of long-term for older people. Thai Journal of Nursing Council,
25(3), 5-10. (in Thai)
13. Bundhamcharoen K. Synthesis of long-term care system for the elderly in Thailand. Bangkok: TQP
company limited; 2010. (in Thai)
14. Sritanyaratana W, Damrikarnlerd L. Elderly services practices. Bangkok: Sahamitr Printing and Publishing;
2010. (in Thai)
15. Sirapo-ngam Y. Family caregiver: concepts and research issues. Rama Nurs J 1996;2(1):84-94. (in Thai)
16. Akanimanee N. Eldercare workers’ opinion on job satisfaction factors in Bangkok metropolis. [Master
thesis]. Nakhon Pathom: Mahidol University; 2002.
17. Yamane T. Statistics: an introductory analysis, 2nd edition, New York: Harper and Row; 1967.
18. Jitapunkul S, Kamolratanakul P, Chandraprasert S, Bunnag S. Disability among Thai elderly living in Klong Toey Slum. Journal of the Medical Association of Thailand 1994;77(5): 231-38.
19. Won CW. Elderly long-term care in Korea. J Clin Gerontol Geriatr 2013;4:4-6.113
20. Chanpradit A. Need of care and customer satisfaction from eldercare workers in metropolis Bangkok. [Master thesis]. Nakhon Pathom: Mahidol University; 2003.
21. Sirapo-ngam Y. A survey of family caregiving research in Thailand. Rama Nurs J 2003;9(2):156-65.
22. Intarasombat P, Sirapo-ngam Y, Chansirikarn S, Yamvong C, Mahakayanun S. Effects of patients and families participation in health care on functional outcomes, well-being, complications, length of stay in elderly patients, and patients and families satisfaction with care. Rama Nurs J 1996;2(3):4-15. (in Thai)
23. Palaburee S, Takam K. Activity of daily life and caregiving demand of elderly in Nai-Wiang subDistrict munipality, Phrae Province. Journal of the Phrae Hospital 2013; 21(1):42-54. (in Thai)
24. Siritipakorn P, Muangpaisan W. Factors of caregiver burden among family caregivers of dementia patients
in a geriatric clinic, Siriraj Hospital. Journal of Nursing Science & Health 2015;38(2): 54-64. (in Thai)
25. Schulz R, Biegel D, Morycz R, Visintainer P. Alzheimer’s disease treatment and family stress. New York: Hemisphere Publishing Corporation; 1989.
