การศึกษาเพื่อหาประสิทธิภาพของการใช้ยาเคมีบำบัดขนานที่สอง docetaxel ตามหลังการรักษาด้วยยาสูตรมาตรฐานขนานแรก carboplatin ร่วมกับ gemcitabine เปรียบเทียบกับสูตรยา carboplatin ร่วมกับ paclitaxel ในผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลาม

Main Article Content

เฉลิมชัย เลิศอนันต์สิทธิ์

บทคัดย่อ

หลักการและเหตุผล: ยาเคมีบำบัดยังมีบทบาทสำคัญในการรักษามะเร็งปอดระยะลุกลามในประเทศไทย ซึ่งตามมาตรฐานสากลการใช้ยาเคมีบำบัดขนานที่ 1 และขนานที่ 2 ได้ประโยชน์ในแง่ของการตอบสนอง ระยะเวลาในการควบคุมโรค และระยะเวลาการมีชีวิตรอดของผู้ป่วย โดยขนานที่ 1 สูตรยาที่นิยมใช้คือ Carboplatin ร่วมกับ paclitaxel หรือการใช้ยา carboplatin ร่วมกับ gemcitabine และยาเคมีบำบัดขนานที่สองคือยาสูตร docetaxel ทางผู้วิจัยจึงต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัด docetaxel ที่ใช้เป็นขนานที่สอง เปรียบเทียบระหว่างการใช้ตามหลังยาเคมีบำบัดขนานที่ 1 ทั้งสองสูตร ในบริบทของโรงพยาบาลสุรินทร์ซึ่งแตกต่างจากบริบทของการศึกษาก่อนหน้านี้
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาย้อนหลังแบบไปข้างหน้า (retrospective cohort) ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งชนิดเซลล์ไม่เล็กระยะลุกลาม ที่ได้รับยาเคมีบำบัดขนานที่สอง docetaxel ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ในโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัด docetaxel และระยะเวลาควบคุมโรค
ผลการศึกษา: ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ศึกษาทั้งสิ้น 49 ราย ได้รับยาเคมีบำบัดขนานที่ 1 สูตร carboplatin ร่วมกับ gemcitabine 30 ราย (ร้อยละ 61.2) และได้รับยาเคมีบำบัดขนานที่ 1 สูตร carboplatin ร่วมกับ paclitaxel 19 ราย (ร้อยละ 38.8) เป็นเพศชายร้อยละ 40 เทียบกับร้อยละ 42.1 (p-value 0.88) เป็นมะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma ร้อยละ 76.7 เทียบกับร้อยละ 84.2 (p-value 0.52) ระยะเวลาในการควบคุมโรคหลังจากใช้ยาเคมีขนานที 1 คือ 7.7 เดือน เทียบกับ 8.0. เดือน (p-value 0.71) อัตราการตอบสนองของยาเคมีบำบัดขนานที่สอง docetaxel เมื่อใช้ตามหลังยาขนานที่ 1 แต่ละสูตรในข้างต้นร้อยละ 36.6 เทียบกับร้อยละ 21.1 (p-value 0.24), ระยะเวลาในการควบคุมโรคหลังใช้ยาสูตร docetaxel 5.3 เทียบกับ 4.7 เดือน (p-value 0.77) และมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดขนานที่ 3 ต่อร้อยละ 36.6 เทียบกับร้อยละ 47.3 (p-value 0.45) ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดขนานที่ 1 carboplatin ร่วมกับ gemcitabine และกลุ่มที่รักษาด้วยยา carboplatin ร่วมกับ paclitaxel ตามลำดับ
สรุป: ถึงแม้จะไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่การใช้ยา docetaxel ตามหลังยาขนานที่ 1 carboplatin ร่วมกับยา gemcitabine มีอัตราการตอบสนองที่ดีกว่า ใช้ตามหลังสูตรยา Carboplatin ร่วมกับยา paclitaxel ถึงร้อยละ 15.5 ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญทางคลินิก

Article Details

บท
นิพนธ์ต้นฉบับ

References

Berger MJ, Ettinger DS, Aston J, Barbour S, Bergsbaken J, Bierman PJ, et al. NCCN Guidelines Insights: Antiemesis, Version 2.2017. J Natl Compr Canc Netw 2017;15(7):883-93. doi: 10.6004/jnccn.2017.0117.

Roila F, Molassiotis A, Herrstedt J, Aapro M, Gralla RJ, Bruera E, et al. 2016 MASCC and ESMO guideline update for the prevention of chemotherapy- and radiotherapy-induced nausea and vomiting and of nausea and vomiting in advanced cancer patients. Ann Oncol 2016;27(suppl 5):v119-v133. doi: 10.1093/annonc/mdw270.

Rowinsky EK. The development and clinical utility of the taxane class of antimicrotubule chemotherapy agents. Annu Rev Med 1997;48:353-74. doi: 10.1146/annurev.med.48.1.353.

Weaver BA. How Taxol/paclitaxel kills cancer cells. Mol Biol Cell 2014;25(18):2677-81. doi: 10.1091/mbc.E14-04-0916.

Maloney SM, Hoover CA, Morejon-Lasso LV, Prosperi JR.Mechanisms of Taxane Resistance. Cancers (Basel) 2020;12(11):3323. doi: 10.3390/cancers12113323.

Galletti E, Magnani M, Renzulli ML, Botta M. Paclitaxel and docetaxel resistance: molecular mechanisms and development of new generation taxanes. ChemMedChem 2007;2(7):920-42. doi: 10.1002/cmdc.200600308.

Woodhouse JR, Ferry DR. The genetic basis of resistance to cancer chemotherapy. Ann Med 1995;27(2):157-67. doi: 10.3109/07853899509031953.